
ม็อบเกษตรกรชาวไร่มันฯ บุกจี้รัฐ ทวงมาตรการช่วยเหลือราคามันฯ
พรุ่งนี้ ! ดีเดย์ (26 กย.56) เริ่ม 10 โมงเช้า ตัวแทนกลุ่มชาวไร่มันทั่วประเทศ ประมาณ 10 รถตู้ จาก โคราช บุรีรัมย์ สระแก้ว ปราจีนบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ชลบุรี กำแพงเพชร กาญจนบุรี นำโดย
ธีระชาติ เสยกระโทก อัครวัฒน์ กิตติพงศ์ภากรณ์ ระดมพลแกนนำบุกกระทรวงพาณิชย์ หารือ คน.ยกร่างมาตรการสนับสนุนปัจจัยการผลิต จี้ประกาศความชัดเจนภายในสิ้นเดือนนี้
ธีระชาติ เผยข้อเรียกร้องรัฐบาลมี 2 แนวทาง คือ "สนับสนุนปัจจัยการผลิต" 70 สต./หัวมันทุกกิโล หรือ
"จำนำ" 15 ล้านตัน มันหัว 2.75 บาท/กก.(25%) ราคาเดียวยกเลิกขั้นบันได สิ้นสุดถึง เมย.57 พร้อมประกาศจัดตั้ง "สหพันธ์เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังแห่งประเทศไทย" หวังระดมร่วมพลักดันร่างกฎหมาย พรบ.กองทุนมันสำปะหลังแห่งชาติ
ม็อบมันฯภาคอีสาน ยื่นข้อเรียกร้องรัฐแก้ปัญหาราคามันตกต่ำขีดเส้นตาย 30 ก.ย.
นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน ยื่นข้อเรียกร้องขอให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ
ชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสานกว่า 500 คน ชุมนุมเรียกร้อง 6 ข้อ ขอรัฐเร่งออกมาตรการช่วยเหลือแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำ พร้อมกำหนดเงื่อนเวลาภายใน 30 กันยายนนี้รู้คำตอบ หากไม่ได้ตามข้อเรียกร้องระดมชาวไร่มันเตรียมชุมนุมใหญ่ทันที
ผู้สื่อข่าวโคราชฟอรั่มออนไลน์รายงานว่า วันนี้ (17 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่หอประชุมอำเภอหนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ได้มีชาวไร่มันสำปะหลังจากพื้นที่ อ.หนองบุญมาก, อ.เสิงสาง, อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา รวมทั้งชาวไร่มันสำปะหลังจากพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ กว่า 500 คน มาประชุมกันเพื่อหารือในการเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยมีนายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน เป็นแกนนำ และได้มีการเปิดเวทีเสวนาเรื่อง“อนาคตเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังไทย” ด้วย
ทั้งนี้นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน กล่าวว่า ในการรวมตัวประชุมวันนี้ ชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสานต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนเฉพาะหน้า 6 ข้อ ได้แก่ 1.ขอให้รัฐบาลจ่ายชดเชยต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรกิโลกรัมละ 0.70 บาท ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกร โดยรัฐบาลไม่ต้องมีโครงการรับจำนำ ซึ่งจะใช้เงินทั้งสิ้นประมาณ 19,600 ล้านบาท น้อยกว่าโครงการรับจำนำ, 2.ถ้ารัฐบาลจะดำเนินการโครงการรับจำนำต่อ เสนอให้รัฐบาลจำนำมันสำปะหลังอย่างน้อย 15 ล้านตัน และให้รับจำนำมันสำปะหลังราคาเดียวที่ไม่ต่ำกว่า 2.75 บาทต่อกิโลกรัมที่เชื้อแป้ง 25%, 3.ให้รัฐบาลเริ่มรับจำนำมันสำปะหลังตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556–30 เมษายน 2557, 4.ให้มีการจัดสรรโควตาการรับจำนำให้แต่ละจังหวัดตามปริมาณมันสำปะหลังของแต่ละจังหวัด และให้คณะอนุกรรมการระดับจังหวัดเป็นคนดูแลบริหารโควตาการรับจำนำ, 5.ให้รัฐบาลดูแลและหาทางช่วยเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้ เนื่องจากพื้นที่การเพาะปลูกไม่มีเอกสารสิทธิ์ และ 6.ให้รัฐบาลรีบประกาศมาตรการการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังภายในวัน ที่ 30 กันยายนนี้
ที่มา : โคราชฟอรั่มออนไลน์
ชาวไร่มันสำปะหลังขู่จัดม็อบบี้รัฐดูแลผลผลิตปี"56/57ออกธ.ค.นี้
ชาวไร่มันสำปะหลังขู่จัดม็อบ หลังออกโรงส่งหนังสือบี้รัฐบาลดูแลมันสำปะหลัง 56/57 เปิดทางทั้งจำนำ หรือชดเชยส่วนต่าง ขีดเส้น ต.ค. 56 ด้าน "นิวัฒน์ธำรง" ซื้อเวลาตัดสินใจจำนำมันสำปะหลัง ชี้พร้อมดันร่าง พ.ร.บ.กองทุนมันสำปะหลังแห่งชาติ นำเงินพัฒนาการปลูกมันสำปะหลัง
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติเมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมาว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในไปศึกษาเปรียบเทียบมาตรการที่จะใช้ดูแลราคาผลผลิตมันสำปะหลังปี 2556/2557 เพื่อให้ทราบข้อดี-ข้อเสียแต่ละวิธีการ เบื้องต้นกำหนดไว้ 2 แนวทาง คือการจำนำ และการจ่ายชดเชยส่วนต่างให้กับเกษตรกร และให้สรุปผลการศึกษาให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ก่อนผลผลิตจะทยอยออกสู่ตลาดในเดือน ธ.ค.นี้
"รัฐบาลต้องดูแลทั้งสองด้านให้เกิดความสมดุล เกษตรกรอยู่ได้ เพราะช่วงแรกถ้าผลผลิตออกมามาก ราคาอาจจะตกต่ำ ควรจะใช้วิธีการอะไรกำกับดูแล และอีกด้านต้องให้เป็นไปตามระเบียบวินัยการคลังด้วย เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณาอีกครั้ง"
ด้านนายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า สมาคมได้มีหนังสือถึงนายนิวัฒน์ธำรง เสนอ 2 แนวทาง โดยขอให้รัฐบาลจ่ายชดเชยส่วนต่างต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร เพื่อใช้เป็นค่าวัสดุทางการเกษตร กก.ละ 0.70 บาท หรือตันละ 700 บาท จากต้นทุนการผลิต กก.ละ 2.01 บาท เท่ากับรัฐบาลจะใช้งบประมาณชดเชยให้เกษตรกรตามผลผลิต 28 ล้านตัน รวม 19,6000 ล้านบาท ต่ำกว่าการใช้งบประมาณในการรับจำนำมันสำปะหลังปีก่อน ที่ราคาเฉลี่ย กก.ละ 2.65 บาท ปริมาณ 10 ล้านตัน รวมเป็นเงิน 26,500 ล้านบาท
หรือแนวทางที่ 2 หากรัฐบาลเห็นควรใช้มาตรการรับจำนำมันสำปะหลังต่อ ขอให้รับจำนำในระดับราคาเดียว คือ กก.ละ 2.75 บาท สำหรับมันสำปะหลังที่มีเชื้อแป้ง 25% และระดับราคา กก.ละ 3.00 บาท สำหรับมันสำปะหลังที่มีเชื้อแป้ง 30% ยกเลิกวิธีการรับจำนำแบบขั้นบันได โดยกำหนดเป้าหมายการรับจำนำ 15 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วน 40% ของผลผลิตทั้งหมด เพื่อให้เกษตรกรรายย่อยใช้ประโยชน์จากการรับจำนำได้เต็มที่ เพราะสามารถรวมตัวขนส่งผลผลิตมาที่จุดรับจำนำได้ในปริมาณมากขึ้น จากเดิมที่กำหนดเพียง 10 ล้านตัน ทำให้จำนำได้น้อย จึงมีต้นทุนค่าขนส่งสูง
"เราขอความชัดเจนในการประกาศโครงการในเดือนตุลาคม 2556 ไปจนถึงเดือนเมษายน 2557 นี้ เพื่อเริ่มรับสมัครลานมัน ไม่ให้ล่าช้าเหมือนปีก่อน ที่ประกาศจำนำเดือนธันวาคม กว่าจะเปิดจำนำได้เดือนมกราคม ทำให้ไม่ทันกับช่วงที่เก็บผลผลิตมาก ถ้ารัฐบาลไม่ให้ความชัดเจนก่อนเดือนตุลาคม ชาวไร่คงต้องแสดงความจำเป็นว่ามีความเดือดร้อนอย่างไร โดยขณะนี้มีชาวไร่จากหลายจังหวัดเริ่มจะรวมตัวกัน เช่น จ.กำแพงเพชร อุบลราชธานี ยโสธร เพื่อให้กำหนดมาตรการนี้เสนอรัฐบาล"
นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอระยะยาว โดยชาวไร่ขอให้ยกร่าง พ.ร.บ.กองทุนมันสำปะหลังแห่งชาติ เพื่อดูแลชาวไร่มันสำปะหลัง เช่นเดียวกับชาวไร่อ้อย และยางพารา เพื่อนำเม็ดเงินดังกล่าวไปพัฒนาการปลูกมันสำปะหลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายธีระชาติกล่าวว่า แนวโน้มผลผลิตปีนี้คาดว่าจะได้ 28.7 ล้านตันในผลสำรวจของสมาคมที่เกี่ยวกับมันสำปะหลังทั้ง 4 สมาคมนั้น เป็นเพียงตัวเลขที่มีการขึ้นทะเบียนเกษตรกร แต่ยังมีผลผลิตที่อยู่ในพื้นที่ปลูกที่ไม่สามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรได้อีก 3 แสนไร่ หรือประมาณ 1.2 ล้านตัน ซึ่งรวมแล้วจะมีผลผลิตประมาณ 30 ล้านตัน
ขณะที่แนวโน้มราคามันสำปะหลังมีแนวโน้มว่าจะปรับลดลงจากราคามันสำปะหลังวันนี้อยู่ที่ กก.ละ 2.30-2.40 บาท เพราะช่วงนี้ยังไม่มีผลผลิตออกสู่ตลาด และแนวโน้มทางผู้ส่งออกมองว่าขณะนี้ตลาดส่งออกมันสำปะหลังมีการแข่งขันกับผลผลิตข้าวโพดสูงขึ้น ทางเราคาดหวังว่าถ้ารัฐบาลอนุมัติชดเชย กก.ละ 0.70 บาท ก็จะช่วยประกันรายได้ให้ชาวไร่ว่าถึงราคาตลาดจะลดลง 2.10 จะมีรายได้ชดเชยอีก 0.70 บาท รวมแล้วก็มีเงินในกระเป๋า 2.80 บาทแน่นอน
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 15 กันยายน 2556
พณ.เร่งสรุปแนวทางช่วยผู้ปลูกมันสำปะหลัง
กระทรวงพาณิชย์ มอบคณะทำงาน เร่งสรุปแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง หลังผลผลิตเริ่มทยอยออกสู่ตลาด
นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังว่า ได้มอบหมายให้คณะทำงาน วางกรอบแนวทางและมาตรการ ในการรองรับผลผลิตมันสำปะหลังที่กำลังจะออกสู่ตลาด ตั้งแต่เดือนกันยายน เป็นต้นไป และจะออกมากในช่วงปลายเดือนตุลาคม นี้ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยการพยุงราคามันสำปะหลังที่มีอยู่ไม่ให้ตกต่ำ โดยจะมีการเสนอแนวทางการดูแลให้กับคณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตร หรือ คชก. พิจาณาต่อไป ขณะที่ ภาคเอกชน ไม่ต้องการให้ภาครัฐเข้าไปแทรกแซงราคามันสำปะหลัง เนื่องจากภาคเอกชนไม่สามารถแข่งขันได้
ที่มา : msn การเงินและธนาคาร
แนะรัฐเลิกแทรกแซงราคามันสำปะหลัง
ผู้ค้ามันสำปะหลัง ชี้ รัฐไม่จำเป็นต้องแทรกแซงราคามัน เนื่องราคาตลาดขณะนี้อยู่ในเกณฑ์ดี
นางปานจิตต์ พิศวง รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นประธานการรับฟังผลสรุปการสำรวจภาวะการผลิต และการค้ามันสำปะหลังฤดูกาลผลิตปี 2556/57 จัดทำโดย 4 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับการค้ามันสำปะหลัง ได้แก่ สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เพื่อนำไปเป็นไปแนวทางการออกนโยบายการช่วยเหลือทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการค้ามันสำปะหลังทั้งระบบ
ทั้งนี้ ผลการสำรวจในพื้นที่แหล่งเพาะปลูกมันสำปะหลัง ภาคเหนือ /ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง รวม 50 จังหวัด พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยวมันสำปะหลังโดยรวมในฤดูกาลผลิต 56/57 มีรวม 7,983,000 ไร่ ลดลง 1.92% หรือลดลง 156,000 ไร่ เมื่อเทียบกับฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา เนื่องจากเกษตรกรหลายพื้นที่ปรับเปลี่ยนไปปลูกอ้อยโรงงาน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลำไย และยางพารา ทำให้ไม่สามารถปลูกมันสำปะหลังแซมได้ รวมทั้งเจอปัญหานายทุนกว้านซื้อที่ดิน เพื่อขยายโครงการอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ภาคตะวันออก แต่เนื่องจากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ฝนตกสม่ำเสมอ และไม่พบการระบาดของเพลี้ยแป้ง ทำให้ผลผลิตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.6 ตันต่อไร่ และได้ผลผลิตรวมประมาณ 28.786 ล้านตัน จากฤดูกาลที่ผ่านมาที่ได้ 3.4 ตันต่อไร่ และได้ผลผลิตรวม 28.276 ล้านตัน
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่กระทบ คือ เกษตรกรประสบปัญหาต้นทุนการเพาะปลูกที่สูงขึ้น เช่น ค่าเตรียมดิน ปุ๋ยเคมี ค่าแรงงาน และค่าขนส่ง ทำให้เสียเปรียบประเทศคู่แข่งที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าประเทศไทย รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ที่พบว่ามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น จึงอยากเสนอให้ภาครัฐ ดำเนินนโยบายสนับสนุนปัจจัยทางการผลิตให้กับเกษตรกรโดยตรง และการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้สูงขึ้น โดยเฉพาะควรหาแนวทาง และมาตรการแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน พร้อมทั้งเร่งพัฒนาเครื่องจักรให้มีความทันสมัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และลดต้นทุน
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 4 สมาคม ขอให้รัฐบาลทบทวนยกเลิกนโยบายการแทรกแซงราคามันสำปะหลัง เนื่องจากหากดูต้นทุนในขณะนี้ เฉลี่ยที่ 2.08 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาตลาด อยู่ที่ 2.40-2.50 บาทต่อกิโลกรัม ถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสม เพราะหากราคาหัวมันมีราคาเกิน 2.60 บาทต่อกิโลกรัม จะทำให้ผู้ประกอบการแข่งขันได้ลำบาก ประกอบกับภาพรวมความต้องการมันสำปะหลังในประเทศ และส่งออกยังเป็นไปในทิศทางที่ดี แต่หากรัฐบาลต้องการจะดูแลเกษตรกร โดยรักษาราคามันสำปะหลังไทยมีเสถียรภาพ ควรเข้าไปดูเกษตรกรที่กำลังประสบปัญหา โดยเฉพาะการลดต้นทุน
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ 10 กันยายน 2556