
ผู้ค้าเอทานอลจี้ รบ.หยุดแทรกแซงราคามันสำปะหลัง
แหล่งข่าวจากวงการเอทานอล เสนอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายแทรกแซงราคาสินค้าเกษตร โดยเฉพาะการรับจำนำมันสำปะหลัง ในราคาสูงกว่าท้องตลาด เพราะผู้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงไม่ใช่เกษตรกร และยังส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลัง สูงกว่าเอทานอลจากกากน้ำตาล หรือ โมลาส ลิตรละ 4-5 บาท ผู้ค้าน้ำมันจึงเลือกซื้อเอทานอลในแหล่งที่มีราคาถูกกว่า เพื่อนำไปผสมเป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์
ส่วนกรณีที่ นายณัฐพล ณัฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ระบุว่า ผู้ค้าน้ำมันบางรายหยุดรับซื้อเอทานอลจากโรงงาน ที่วัตถุดิบมันสำปะหลังนั้น ไม่เชื่อว่าเป็นความจริง เพราะผู้ค้าน้ำมันมีหุ่นส่วนในบริษัทดังกล่าว
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังบังคับให้ผู้ค้าน้ำมันต้องรับซื้อเอทานอลจากวัตถุดิบทั้งสองประเภท การกล่าวหาอาจเป็นเพราะต้องการผลักดันสินค้าเกษตรชนิดใดชนิดหนึ่งเป็นพิเศษ
ทั้งนี้หากรัฐบาลสนับสนุนให้มีการจัดตั้งกองทุนมันสำปะหลัง เช่นเดียวกับอ้อย เพื่อปรับโครงสร้างราคาทั้งระบบ ก็จะสามารถช่วยแก้ปัญหาราคาตกต่ำในระยะยาวได้ ปัจจุบันโรงงานเอทานอลทั้งหมดที่เดินเครื่องผลิตมี 19 โรงงาน กำลังผลิตวันละ 3.9 ล้านลิตร แต่ผลผลิตจริงประมาณ 3 ล้านลิตร โดยเป็นโรงงานเอทานอลที่วัตถุดิบมันสำปะหลังอย่างเดียว 7 โรงงาน มีปริมาณมันสำปะหลังที่ใช้ 3 ล้านตัน จากผลผลิตทั้งหมด 28 ล้านตันต่อปี
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 ตุลาคม 2556
ภท.ระดมสมองแก้ปัญหามันสำปะหลัง วงเสวนาหนุนผลักดันร่างพรบ.กองทุนฯ เน้นทุกฝ่ายได้ประโยชน์
พรรคภูมิใจไทย ได้จัดเสวนา “เรื่อง มัน...มัน... ปัญหาและทางออก ของมันสำปะหลัง” ขึ้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ ห้องประชุมชั้น 3 พรรคภูมิใจไทย ถ.พหลโยธิน โดยมีจุดประสงค์เพื่อร่วมแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากราคาผลผลิตตกต่ำ
นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานกล่าวเปิดการเสวนาโดยระบุว่าเป็นที่ทราบกันดีว่าในปัจจุบันพี่น้องเกษตรกรกำลังประสบปัญหาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะมันสำปะหลัง ที่ประเทศไทยมีการปลูกถึง 45 จังหวัด พื้นที่ในการเพาะปลูก 8 ล้านไร่ จำนวนผลผลิตประมาณ 28 ล้านตัน มีเกษตรกรทั้งหมดเกือบ 5 แสนครัวเรือน
ประเทศไทยเป็นประเทศที่ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังมากที่สุดในโลก โดยส่งไปในกลุ่มประชาคมยุโรป อย่าง เนเธอร์แลนด์ สเปน เยอรมัน โปรตุเกส และยังมีตลาดเกาหลีใต้และญี่ปุ่น
มันสำปะหลัง เป็นพืชเศรษฐกิจที่มีผู้เกี่ยวข้องมากมาย กล่าวคือ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ลานมัน โรงงานแปรรูป และผู้ส่งออกมันสำปะหลัง แต่พบว่าปัจจุบันมีปัญหาด้านรายได้ของพี่น้องเกษตรกร ที่ไม่สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต จึงสมควรได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบ ครบวงจร แก้ไขปัญหาที่เบ็ดเสร็จและยั่งยืน
ผมรับทราบมาว่า ในขณะนี้ทางกลุ่มพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมีความพยายามในการขับเคลื่อนให้มีการเสนอ พระราชบัญญัติมันสำปะหลังแห่งชาติ ซึ่งพรรคภูมิใจไทย ก็ได้มีการตั้งคณะทำงานเรื่องดังกล่าวเช่นกัน และจะร่วมขับเคลื่อนเพื่อหาหนทางแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังต่อไป
นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาคมชาวไร่มัน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าว
ว่าปัจจุบันตัวเลขและข้อมูลต่างๆ ของเกษตรกรกับส่วนราชการไม่ตรงกัน ควรจะคุยกันว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังเห็นว่าการมี พรบ.มันสำปะหลังแห่งชาติ จะทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความมั่นใจว่าเมื่อลงมือปลูกมันแล้วจะขายได้เท่าไร และมีแรงใจในการสร้างผลผลิต
“เรื่องนี้จะต้องช่วยกันทั้งพรรคการเมืองและเกษตรกร ในฐานะชาวไร่มันก็จะไปชี้แจงว่าชาวไร่จะอยู่ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนได้อย่างไร และเมื่อชาวไร่มีรายได้มั่นคง ลานมัน ส่งออกก็มีผลผลิต แต่การอยู่ร่วมกันก็จะต้องมีกฎหมาย ที่พวกเราจะต้องช่วยกันผลักดันออกมาให้ได้ ช่วยกันทำให้มันสำปะหลังเป็นพืชเงินพืชทองของแผ่นดิน”
นายธีระชาติ กล่าวถึงความมั่นใจเมื่อมีกฎหมายมันสำปะหลังว่า คิดง่ายๆ หากมีผลผลิต 28 ล้านตันต่อปี เอาเข้ากองทุนตันละ 10 บาท ก็จะเป็นกองทุนไว้แก้ปัญหาได้โดยไม่ต้องรอภาครัฐ แต่เรื่องเหล่านี้รัฐบาลเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าจะให้การสนับสนุนอย่างไร ในขณะที่อ้อย ข้าว มีกองทุน มีเจ้าภาพ แต่มันสำปะหลังไม่เคยมี
หากมีกฎหมายออกมา มีคณะกรรมการนโยบายมันแห่งชาติ มีตัวแทนจากทุกฝ่าย โดยให้มีเกษตรกรมากหน่อย ทอย่างเช้าหากมีกรรมการ 15 คน ก็น่าจะมีเกษตรกร 5-7 คน ก็น่าจะมีความมั่นคงขึ้น
นายภมร ศรีประเสริฐ ตัวแทนลานมัน ลานมันศรีทองโดเรม่อน กล่าวว่าเป็นนิตหมายอันดีที่จะมีการร่วมกันผลักดันร่างพรบ.มันสำปะหลัง เพื่อแก้ปัญหาให้กับพี่น้องเกษตรกร เพราะเรื่องนี้มีไม่กี่คนที่ให้ความสนใจ ในตอนหาเสียงมีแต่คนพูดถึง บางคนบอกจะทำให้เป็นกิโลละ 4 บาท แต่ตอนนี้เลือกแล้ว เป็นส.ส. เป็นรัฐบาลมีใครพูดถึงบ้าง พูดแล้วก็ทำไม่ได้
“ในตอนที่ภูมิใจไทย ดูแลกระทวงพาณิชย์ ก็ช่วยมันสำปะหลังให้ได้เงินตรงเวลา แต่ก็ทำใก้ผัว เมียทะเลาะกัน เพราะขายมันได้ถึง 3.50 บาท ผัวก็อยากได้สิบล้อ ส่วนเมียก็จะเอาฟอร์จูนเนอร์”
นายภมร กล่าวด้วยว่าเมื่อพูดถึง พรบ.กองทุนมันสำปะหลัง ถือว่าเป็นเรื่องจำเป็นมาก เรื่องนี้อาจจะมีความเห็นต่างกันอยู่ แต่อะไรที่คิดว่าทำแล้วทำให้เกษตรกรอยู่ดีกินดีก็เป็นเรื่องที่น่าทำ และเมื่อมี พรบ. ก็จะมีการจัดการทุกอย่างให้ลงตัว มีเงินกองกลางเอาไว้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรเมื่อจำเป็น
นายธวัชชัย ยืนยง ตัวแทนโรงแป้งมัน บจก.โชคยืนยง อุตสาหกรรม กล่าวว่าต้องขอบคุณพรรคภูมิใจไทย ที่จัดการเสวนาในครั้งนี้ ทุกวันนี้ประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลังเยอะมาก ส่งออกเป็นอันดับ 1 ของโลกถึง 4-4.2 ล้านตัน โดยขยายตัวต่อเนื่องปีละ 3-5% แต่ก็อย่าลืมว่าเรามีคู่แข่งมากทั้งลาว กัมพูชา แต่ทุกวันนี้ขณะที่ประเทศทางยุโรปมีการลงทะเบียนผู้ปลูกมันสำปะหลัง แต่เราไม่มีการควบคุม ไม่มีโซนนิ่ง การรับซื้อก็ยังไม่ทั่วถึง หากไม่มีการปรับปรุงก็จะทำให้เราเสียเปรียบและเสียโอกาสได้
นายมาโนช วีระกูล ตัวแทนผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง บจก.กบินทร์ผาติการเกษตร กล่าวว่าสิ่งที่น่าจะคุยกันในวันนี้คือจะทำอย่างไรในการยกระดับราคาให้เกษตรกรอยู่ได้ แต่ไม่ว่าจะเลือกการเพิ่มผลผลิต หรือการเพิ่มระดับราคาก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย
“หากเลือกการเพิ่มผลผลิต ก็ต้องย้อนถามว่าภาครัฐสามารถดูแลได้ดีพอหรือไม่ ในปี 2558 เราจะเข้าสู่ AEC จะต้องเปิดรับสินค้าการเกษตรจากประเทศสมาชิก ก็รู้สึกกังวล ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องไปช่วยกันคิดแก้ไข ซึ่งสภาพปัญหาทั่วไปที่พบมีทั้งปัญหาขาดแคลนเครื่องจักรกลการเกษตร โรงแป้งไม่สามารถซื้อผลผลิตได้ทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ก็ทำให้สินค้าล้นตลาด ราคาสินค้าตกต่ำ งจะเห็นว่าขณะนี้ก็ยังไม่มีการแก้ไข”
ที่มา : พรรคภูมิใจไทย
.....พาณิชย์ล้างสต็อกมันสำปะหลังรอจำนำงวดหน้า.....
พาณิชย์ล้างสต็อกรอรับจำนำมันสำปะหลังรอบใหม่ เผยในโกดังเหลือแค่ 1 แสนตัน คืนเงินให้ ธ.ก.ส. แล้ว 1.7 หมื่นล้านบาท
วันที่ 6 ต.ค.นางปานจิตต์ พิศวง รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการค้าต่างประเทศสามารถระบายมันเส้นที่อยู่ในสต็อกของรัฐบาลปี 55/56 จำนวน 2.2 ล้านตันเกือบหมดแล้ว หรือเหลืออีกประมาณ 1 แสนตัน และสามารถทะยอยส่งเงินคืนให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ประมาณ 17,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการขายในลักษณะจีทูจี ให้กับประเทศจีนกว่า 1 ล้านตัน เบื้องต้นในส่วนที่เหลือก็จะเสนอให้กระทรวงพาณิชย์หามาตรการเร่งระบายเพื่อรองรับมันสำปะหลังในฤดูกาลผลิต 56/57 ในกรณีที่รัฐบาลจะมีนโยบายรับจำนำต่อไป
“ขณะนี้กรมฯได้เปิดประมูลมันฯเส้นในสต็อกปี 51/52 จำนวน1.2 แสนตัน เพื่อใช้ในประเทศ มีผู้ยื่นซอง 3 ราย และปี 55/57 จำนวน 1.4 แสนตัน เพื่อส่งออก ซึ่งมีผู้มายื่นซอง 5 ราย ส่วนใหญ่ให้ราคาในระดับที่พอใจ เบื้องต้นหากไม่มีอะไรผิดพลาดมันฯในสต็อกปี 51/52 จะหมดแล้ว และในปี55/56 หากประมูลล็อตนี้เสร็จก็เหลืออีก 1 แสนตัน”
สำหรับสถานการณ์มันสำปะหลังปี 56/57 คาดว่าจะมีปริมาณ 28.22 ล้านตัน เพิ่มจากปีก่อน 2.78% เบื้องต้นภาคเอกชนมีการประเมินราคาตลาดโลกน่าจะอยู่ในระดับปรับตัวลดลง เนื่องจากประเทศจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลักของไทยได้รปะสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวและผลิตผลิตของประเทศเพื่อนบ้านเริ่มออกสู่ตลาด เบื้องต้นภาครัฐจะส่งเสริมการนำมันฯไปใช้ในส่วนของพลังงานทดแทนมากขึ้นเพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
ทั้งนี้กระทรวงพลังงานยืนยันว่าในฤดูผลิต 56/57 ผู้ประกอบการพลังงานทดแทนจะมีการรับซื้อหัวมันฯสดไม่ต่ำกว่า 2 ล้านตันเพื่อนำไปผลิตเอทานอล ซึ่งจะผลิตได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านลิตร จากในปีการผลิตที่โรงงานเอทานอลรับซื้อไป 1.6 ล้านตัน ผลิตเอทานอลได้ 255 ล้านลิตร
“หลังจากที่รัฐบาลยกเลิกการใช้น้ำมันเบนซิน 91 ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์มีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อเกษตรกรและประเทศชาติที่ช่วยลดการนำเข้าน้ำมันและจะช่วยให้ราคามันฯปรับตัวสูงด้วย”
อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร และมูลนิธิสถาบันพัฒนามันสำปะหลังแห่งประเทศไทย ได้สำรวจภาวะการผลิตและการค้ามันฯ ปี 56/57 คาดว่าจะมีพื้นที่เก็บเกี่ยว 7.9 ล้านไร่ มีผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ที่ 3.6 ตัน โดยคาดว่าราคารับซื้อหัวมันสดเชื้อแป้ง 25% ที่เกษตรกรขายได้จะอยู่ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มทุน
ที่มา : เดลินวส์ วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556
ชาวไร่มัน 10 จว.ร้องรัฐบาลเลิกโครงการรับจำนำมันฯ ขอช่วยต้นทุน 1 บ./กก.รอฟังผล 15 ตค.นี้ ก่อนนัดรวมตัวใหญ่ที่สอยดาว
วันนี้ เวลา 10 โมงเช้า ที่ กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่จากหลายจังหวัด จะประชุมสรุปแนวทางที่จะขอให้รัฐบาลช่วยดูแลเรื่องราคามันสำปะหลัง และในช่วงบ่ายจะนำข้อสรุปจากการประชุมเสนอต่อ กระทรวงพาณิชย์
สรุปข้อเรียกร้องของกลุ่มเกษตรกร ในวันนี้
1.ขอให้ยกเลิกโครงการรับจำนำ
2.ขอให้รัฐช่วยค่าปัจจัยการผลิต 1 บ./กก. รายละไม่เกิน 250 ตัน ตามรายชื่อที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรฯ
3.ขอคำตอบจากรัฐบาล ภายในวันที่15ตค.นี้
เกษตรกรที่มาประชุม มีทั้งหมด 10 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ชลบุรี และกาญจนบุรี จำนวนประมาณ 170 คน ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ได้นัดหมายประชุมร่วมกัน ที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ในวันที่ 16 ตค.นี้
โครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังในไตรมาสที่ 2/2556 ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2555/56
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการดำเนินโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังในไตรมาสที่ 2/2556 ตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2555/56 ตามที่กระทรวงพลังงาน (พน.) เสนอ
สาระสำคัญของผลการดำเนินโครงการผลิตเอทานอลจากมันสำปะหลังในไตรมาสที่ 1/2556 และไตรมาสที่ 2/2556 ปรากฏว่ามีสัดส่วนการใช้เอทานอลจากกากน้ำตาล : มันสำปะหลังได้เพิ่มขึ้นจาก 77.5 : 22.5 เป็น 73.8 : 26.2 รวมเป็นสัดส่วนเฉลี่ยทั้ง 2 ไตรมาส เท่ากับ 75.5 : 24.5 คิดเป็นปริมาณเอทานอลจากกากน้ำตาล : มันสำปะหลังเท่ากับ 332,188,710 ลิตร : 107,747,560 ลิตร หรือคิดเป็นการใช้หัวมันสดสำหรับการผลิตเอทานอลรวมทั้งสินจำนวน 699,006 ตัน อย่างไรก็ตาม พน. คาดว่าในปี 2556 จะมีการใช้หัวมันสดผลิตเอทานอลรวมประมาณ 1.9 ล้านตัน ซึ่งสูงกว่าเป้าหมาย 1.6 ล้านตัน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 เนื่องจากปี 2556 คาดว่าจะมีการใช้เอทานอลรวมเฉลี่ย 2.6 ล้านลิตรต่อวัน สูงกว่าเป้าหมายการใช้เอทานอล 2 ล้านลิตรต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 30
ที่มา : ข่าวเศรษฐกิจ พุธที่ 2 ตุลาคม 2556