
พาณิชย์ชงครม.ไฟเขียวมาตรการชดเชยผู้ปลูกมันสำปะหลัง
พาณิชย์ เตรียม เสนอ ครม.ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในฤดูกาผลิต2556/57 โดยเสนอมาตรการให้เงินชดเชยช่วยเหลือค่าบริหารจัดการด้านการตลาดแทนการรับจำนำ คาดใช้เงินลดลงเหลือกว่า 1หมื่นล้านบาท
นายยรรยง พวงราช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังหารือตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังเพื่อร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือและพยุงราคาหัวมันสดฤดูกาลผลิตปี2556/57 ว่าแนวคิดเบื้องต้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.)พิจารณาให้ความเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้ปลูกมันสำปะหลังโดยจ่ายชดเชยค่าบริหารการตลาด
แทนการรับจำนำหัวมันสด ( ค่าบริหารจัดการลดความเสี่ยงด้านการตลาด) ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกมันทั้งหมดประมาณ5แสนรายและผลผลิตประมาณ 28ล้านตันซึ่งมอบหมายให้กรมการค้าภายในจัดทำรายละเอียดอัตราช่วยเหลือและงบประมาณที่จะใช้โดยมาตราที่จะนำมาใช้พยุงราคามันเป็นมาตรการใหม่ที่เน้นเพิ่มอำนาจต่อรองการตลาดให้เกษตรกรอัตราชดเชยคำนวณจากเป้าหมายราคาตลาดไม่ให้ต่ำกว่า2.60-3 บาท/กก.และมอบหมายให้กรมการค้าต่างประเทศหาตลาดระบายมันสำปะหลังพร้อมประสานกระทรวงพลังงานในการรับซื้อมันสดเพื่อผลิตพลังงานทดแทน(เอทานอล) โดยคาดว่าความต้องการในปีนี้จะพอๆกับผลผลิตที่ออกมาหรืออาจจะมากกว่านิดหน่อย
“รัฐชดเชยเงินเพื่อให้เกษตรกรใช้หมุนเวียนในการเพาะปลูกและไม่รีบเร่งขุดหัวมันสดขายให้ลานมันหรือพ่อค้าในต้นฤดูพร้อมกันที่มักเกิดในเดือนธันวาคม-มีนาคมทำให้มันล้นตลาดและราคาตกต่ำเมื่อรัฐจ่ายเงินช่วยเหลือทำให้เกษตรไม่แห่กันขุดมันสดและทยอยขายเมื่อราคาดีหากไม่ใช้มาตรการพยุงราคาก็จะทำให้ราคาลดลงจากขณะนี้กก.ละ2.25-2.50 บาทมั่นใจวิธีการนี้ใช้เงินต่ำกว่าการรับจำนำครั้งก่อนที่ซึ่งครั้งนี้คาดว่าจะลดงบประมาณลงเหลือเพียงกว่า1หมื่นล้านบาท
ด้านตัวแทนเกษตรที่ข้าร่วมประชุมกล่าวว่าหากรัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือแบบนี้ช่วยลดงบประมาณลงและช่วยชะลอไม่ให้เกษตรกรรีบขุดหัวมันมาขายและสามารถเลือกที่จะขายเมื่อไหร่หรือขายให้ใครก็ได้ซึ่งหัวมันจะมีผลผลิตออกมามากในช่วงเดือนธ.ค. –มี.ค. โดยเกษตรกรส่วนใหญ่กระจายอยู่ใน 46จังหวัดในภาคอีสาน เหนือและตะวันออก โดยที่ผ่านมาในโครงการรับจำนำมันสำปะหลังใช้งบประมาณรับจำนำ2.7 หมื่นล้านบาทเมื่อรวมกับงบบริหารจัดการอีก4 พันล้านบาท แต่หากใช้วิธีนี้คาดว่างบประมาณจะลดลงเหลือเพียงกว่า1 หมื่นล้านบาทและสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้ถึง5 แสนรายขณะที่การรับจำนำช่วยเกษตรกรได้เพียง1.33 แสนราย
ที่มา : ฐานเศษฐกิจ