Company Logo





พยากรณ์อากาศ

รัฐขู่ตรวจสอบภาษี-การใช้แรงงานบีบรง.ร่วมรับจำนำมันฯ



วัชรี วิมุกตายน

โรงงานมันสำปะหลัง เมินเข้าร่วมโครงการรับจำนำมันฯ อ้างผลตอบแทนต่ำ ส่งผลให้ที่ประชุม
คชก.ขู่ถ้าไม่ร่วมจะให้ กรมสรรพกร-หน่วยงานสิ่งแวดล้อม รวมทั้ง กระทรวงแรงงาน ตรวจสอบ

                นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงการเตรียมพร้อมในโครงการรับจำนำมันสำปะหลังปี 2555/56 โดยได้พิจารณาถึงอัตราค่าตอบแทนการแปรสภาพตามที่ทางสมาคมโรงงานผู้ผลิตมัน สำปะหลัง ร้องขอมา

             โดยสมาคมโรงงานฯเสนอให้ปรับขึ้นจากที่เคยได้รับในการรับจำนำในปีที่ผ่านมา แต่ตัวแทนจาก กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ ยืนยันว่า ปัจจุบันเกษตรกรสามารรถผลิตมันได้คุณภาพมากขึ้น สิ่งปลอมปนน้อยลง โดยที่ประชุมเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลที่ต้องปรับขึ้นตามที่ร้องมา โดยให้ยึดตามอัตราเดิมที่เคยจ่าย คือจากหัวมันเป็นมันเส้น ที่ 380 บาทต่อตัน และจากจากหัวมันเป็นแป้งมัน ที่ 3,320บาท ต่อตัน และหากผู้ประกอบการรายใดไม่ต้องการเข้าร่วมโครงการทาง กระทรวงฯก็จะสั่งการให้ หน่วยงาน เช่น สรรพากร หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบการดำเนินการในสถานประกอบการแต่ละแห่งว่ามีการดำเนิน การอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่

             “ไม่ได้เป็นการบีบบังคับให้เอกชนมาร่วมโครงการแต่เห็นว่าโครงการดังกล่าว เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น” นางวัชรี กล่าว

                ส่วนที่มีการร้องมาจาก สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ให้เพิ่มอัตราค่าเช่าพื้นที่โกดังนั้นทาง คณะกรรมการจะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ตามความเหมาะสม ซึ่งคณะกรรมการฯจะต้องได้ข้อสรุปนร่วมกันก่อนที่จะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อเห็นชอบให้ดำเนินโครงการต่อไป

              ด้านภมร ศรีประเสริฐ อุปนายกสมาคมผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่าสมาชิกของสมาคมกว่า 400 ราย เห็นว่าภาครัฐควรเพิ่มอัตราค่าแปรสภาพมากขึ้นคือจากหัวมันเป็นมันเส้นเป็น 545 บาทต่อตัน และจากหัวมันเป็นแป้งมัน เป็น  3,500 บาทต่อตัน เพราะผู้ประกอบการมีต้นทุนที่สูงขึ้นโดยเฉพาะค่าแรง และเรียกร้องให้พิจารณาราคารับจำนำเริ่มต้น 2.50 บาทและจะเพิ่มแบบขั้นบันใดทุกเดือนๆละ 0.5 สต.เพราะเห็นว่าเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดที่เอกชนรับซื้อมาจากเกษตรกรที่ ประมาณ 2.50-2.75 บาทต่อกก.หากภาครัฐกำหนดราคารับจำนำต่อกว่าราคาซื้อขายจริงในตลาดก็จะทำให้ ผู้นำเข้าอย่างจีนกดราคาผู้ส่งออกไทยเพราะอ้างอิงราคารับจำนำเริ่มต้นของไทย ว่าเป็นราคาที่ต่ำทั้งๆที่พ่อค้าไทยรับซื้อวัตถุดิบสูงกว่าราคารับจำนำ

            รายงานข่าวระบุว่า  จาก การสอบถามพบว่าตัวแทนสมาคมเกี่ยวข้องกับมันสำปะหลังเห็นชอบร่วมกันว่าหากภาค รัฐไม่ปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้ตามที่ร้องขอสมาชิกก็อาจจะไม่เข้าร่วมโครงการ รับจำนำ ซึ่งอาจส่งผลให้เมื่อถึงเวลารับจำนำจริงไม่มีจุดรับจำนำมันให้ เกษตรกร เพราะปีที่แล้วมีเอกชนร่วมเป็นจุดรับจำนำกว่า 600 แห่ง นอกจากนี้หากไม่ปรับอัตราค่าเช่าโกดังให้ตามที่เอกชนร้องขอก็ทำให้เจ้าของ โกดังที่เป็นผู้ประกอบการมันสำปะหลังไม่เข้าร่วมโครงการด้วยเช่นกัน ก็จะทำให้ไม่มีพื้นที่เก็บมันในโครงการ

                 “หน้าที่ หาโกดังเก็บมันเป็นขององค์การคลังสินค้า(อคส.)แต่ทางราชการก็ขอเช่าพื้นที่ของผู้ประกอบการเอกชน เราก็พร้อมจะทำให้ แต่ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนให้เราอย่างเหมาะสมเพราะ มันมีการจัดเก็บที่แตกต่างกับข้าวจะใช้มาตรฐานเดียวกันไม่ได้ เพราะเอกชนไม่ได้ต้องการให้มีการับจำนำแต่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นไปตามกลไก ตลาดรัฐบาลดูแลราคาให้มีเสถียรภาพก็พอ” แหล่งข่าวจากวงการมันสำปะหลัง กล่าว

                สำหรับสถานการณ์ทันสำปะหลังนั้นมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นทุกปี โดยแต่ละปีมีการส่งออกในรูปของมันเส้นที่  4 ล้านตัน มูลค่า 3-40,000 ล้านบาท แป้งมัน 2.5-3  ล้านตัน มูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มจะเติบโตเพิ่มขึ้นหากสหรัฐและประเทศอื่นๆประสบปัญหาภัยธรรมชาติ และผลผลิตลดลง ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังจะออกมาในช่วงเดือนพ.ย.-ม.ค. ของทุกปี โดยมติของคชก.เห็นชอบให้รับจำนำ 15 ล้านตันจากผลผลิตที่ออกมาประมาณ 25 ล้านตัน

ที่มา : หนังสือพิมพ์ แนวหน้า วันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555

 

พาณิชย์บีบเอกชนรับจำนำมัน




นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการนโยบาย และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้หารือถึงการเตรียมพร้อมโครงการรับจำนำมันสำปะหลังปี 2555/56 โดยได้พิจารณาถึงอัตราค่าตอบแทนการแปรสภาพตามที่สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังร้องขอมาให้ปรับขึ้นจากที่เคยได้รับในการรับจำนำปีที่ผ่านมา แต่ตัวแทนจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันว่าปัจจุบันเกษตรกรสามารถผลิตมันได้คุณภาพมากขึ้น สิ่งปลอมปนน้อยลง และเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลที่ต้องปรับขึ้นตามที่ร้องมา โดยให้ยึดตามอัตราเดิมที่เคยจ่าย คือจากหัวมันเป็นมันเส้นที่ 380 บาทต่อตัน และจากหัวมันเป็นแป้งมันที่ 3,320 บาทต่อตัน 

หากผู้ประกอบการรายใดไม่ต้องการเข้าร่วมโครงการทางกระทรวงจะสั่งการให้หน่วยงานเช่นสรรพากรหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมกระทรวงแรงงานในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการแต่ละแห่งว่ามีการดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ซึ่งไม่ได้เป็นการบีบบังคับให้เอกชนร่วมโครงการ แต่โครงการดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ส่วนที่มีการร้องมาจากสมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย ให้เพิ่มอัตราค่าเช่าพื้นที่โกดังนั้นคณะกรรมการจะพิจารณาเป็นกรณีตามความเหมาะสม ซึ่งจะต้องได้ข้อสรุปร่วมกันก่อนนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

รายงานข่าวระบุว่า จากการสอบถามพบว่าตัวแทนสมาคมเกี่ยวข้องกับมันสำปะหลังเห็นชอบร่วมกันว่าหาก ภาครัฐไม่ปรับเพิ่มค่าตอบแทนให้ตามที่ร้องขอสมาชิกอาจจะไม่เข้าร่วมโครงการ รับจำนำ ซึ่งอาจส่งผลให้เมื่อถึงเวลารับจำนำจริงไม่มีจุดรับจำนำมันให้เกษตรกร

ข้อมูล : ข่าวสดรายวัน วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2555 ปีที่ 22 ฉบับที่ 7998 หน้า 9.

คน.ยืนยันจ่ายค่าแปรสภาพมันเส้นชิ้นใหญ่ให้ลานมัน ตันละ 400 บาท พร้อมเชิญผู้แทนสมาคมร่วมถกข้อมูลต้นทุนการขอปรับเพิ่มค่าใช้จ่ายร่วมกับคณะทำงาน กระทรวงพาณิชย์ ในสัปดาห์หน้า‏



เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2555 เวลา 15.30 น. ณ ห้องประชุม ชั้น 6 กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นางสาววิบูลลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้เชิญ นายกสมาคม และเลขาธิการ สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นายมาโนช วีระกุล
/ นายธีระ เอื้ออภิธร) และ สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย (นายนิยม จุฬาเสรีกุล / นายสมชาย วราธนสิน) เข้าร่วมประชุมกับ กรมการค้าภายใน และองค์การคลังสินค้า (อคส.) เพื่อหารือการกำหนดค่าจ้างแปรสภาพมันเส้นชิ้นใหญ่ ตามโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ปี 2555/56

นายก 2 สมาคม ได้กล่าวยืนยันข้อมูลตัวเลขที่ได้มีการประชุมหารือกับสมาชิกผู้ประกอบการลานมัน เพื่อขอให้พิจารณาปรับเพิ่มค่าจ้างแปรสภาพจากเดิม 380 บาท/ตัน เป็น 510 บาท/ตัน เนื่องจากในการผลิตมันเส้นชิ้นใหญ่ให้ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่โครงการกำหนดมีต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากเดิม การปรับเพิ่มค่าแปรสภาพให้เพียงตันละ 20 บาท นั้น สมาชิกลานมัน เห็นว่าอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างต่ำ

ด้านกรมการค้าภายใน ยืนยันว่า ค่าจ้างแปรสภาพที่ปรับเพิ่มให้ 400 บาท/ตัน นั้น เป็นอัตราที่เหมาะสม ต้นทุนในรายการต่างๆ สอดคล้องกับหลักเกณฑ์การคิดต้นทุนของทางราชการ และวิธีคิดของกรมบัญชีกลาง จึงฝากทั้ง 2 สมาคม กลับไปทบทวนตัวเลขกับสมาชิกลานมันอีกครั้ง

นายก 2 สมาคม แสดงความเห็นแนวทางเดียวกันว่า หากกรมการค้าภายในเห็นว่าอัตราค่าจ้างแปรสภาพมันเส้นชิ้นใหญ่ที่ตันละ 400 บาท อัตราแปรสภาพเดิมที่ 2.42 : 1 มีความเหมาะสมก็ขอให้ประกาศดำเนินการเลย ในส่วนของสมาคมได้ให้อิสระกับสมาชิกในการตัดสินใจทำสัญญาเข้าร่วมโครงการ อยู่ที่สมาชิกลานมันแต่ละรายว่าจะตัดสินใจรับจ้างแปรสภาพหรือไม่

ทั้งนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน ได้แจ้งให้สมาคมทราบว่า ในสัปดาห์หน้า วันศุกร์ที่ 19 ตุลาคม 2555 คณะอนุกรรมการกำกับดูแลการดำเนินงานโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ของ กระทรวงพาณิชย์ จะประชุมเพื่อพิจารณารายละเอียดต้นทุนค่าแปรสภาพมันเส้นอีกรอบ และตัดสินใจว่าจะอนุมัติเพิ่มค่าจ้างแปรสภาพให้ลานมันเท่าใด ซึ่งอธิบดี ได้กล่าวเชิญทั้ง 2 สมาคม ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุม พิจารณาข้อมูลต้นทุนที่ขอปรับ

เพิ่มในแต่ละรายการ เพื่อประกอบการตัดสินใจของคณะอนุกรรมการกำกับฯ เนื่องจากต้นทุนที่ทางสมาคมเสนอมา เมื่อหารือกับกรมบัญชีกลาง แล้วการคิดคำนวณต้นทุนบางรายการ เช่น ค่าเสื่อมต่าง ๆ ไม่สอดคล้องกับเกณฑ์การคำนวณของทางราชการ

ส่วนในเรื่องของคลังกลางสินค้า ที่ทางสมาคม เสนอขอปรับเปลี่ยนจากเดิมสัญญาฝากเก็บ เป็นสัญญาเช่า เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายสมศักดิ์ วงศ์วัฒนศานต์ รองผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า กล่าวชี้แจงปัญหาซึ่งทาง อคส.ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเกรงว่าเมื่อปฏิบัติจริงจะติดขัดเรื่องการจัดหาเครื่องมืออุปกรณ์ดำเนินงาน อีกทั้งทางเจ้าหน้าที่ อคส.ขาดความชำนาญ และยังไม่มีประสบการณ์เรื่องการดูแลรักษาสินค้ามันสำปะหลัง

ส่วนอัตราน้ำหนักสูญหายมันเส้นในคลังกลางนั้น นายสมศักดิ์ รอง ผอ.อคส. แสดงความเห็นด้วยกับข้อมูลซึ่งทางสมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย ยื่นหนังสือเสนอมาจากเดิม 1% ตลอดระยะเวลาโครงการขอเปลี่ยนเป็น 1.5% ตลอดระยะเวลาโครงการภายใน 1 ปี ด้านเกณฑ์การคิดคำนวณค่าขนส่ง อคส.จะใช้อัตราเดียวกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล

อธิบดีกรมการค้าภายใน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานตามโครงการรับจำนำมันเส้นในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ ได้มีการหารือกับ กระทรวงพลังงาน เพื่อเพิ่มช่องทางการระบายสินค้าในสต็อกของรัฐบาลให้กับโรงงานผู้ผลิตเอทานอลภายในประเทศ ซึ่งทางรัฐมนตรีของทั้งสองกระทรวงได้มีการพูดคุย และเตรียมการในเรื่องดังกล่าวไว้แล้ว

 

ข้อมูลข่าว : สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

“ม็อบมันฯ” อีสานบุกทำเนียบฯ พรุ่งนี้ จี้ “ปู” ขึ้นราคาจำนำ 3 บาท/กก.


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา -
 เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังอีสานรวมพลบุกทำเนียบรัฐบาลพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) จี้ “นายกฯ ปู” ทบทวนโครงการรับจำนำมันฯ ปี 55/56 เรียกร้องเพิ่มราคารับจำนำเป็น 3 บาท/กก. ราคาเดียวตลอดโครงการ ระบุรับจำนำที่
2.50 บาท/กก.เกษตรกรไม่คุ้มทุน พร้อมให้รับจำนำทั้งหมดโดยไม่จำกัดจำนวน และเปิดให้เกษตรกรร่วมเป็น กก.ในอนุกรรมการกำหนดราคารับจำนำอย่างน้อย 5 คน 


       
       วันนี้ (1 ต.ค.) ที่หน้าลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มเกษตรกรจากสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสานกว่า 10 คน นำโดย นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการและผู้ประสานงานสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน ได้เดินทางมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนแนวทางและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง
       
       พร้อมกับได้อ่านแถลงการณ์ที่ระบุว่า วันนี้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังได้รับความเดือดร้อนจากราคามันฯ ตกต่ำและรัฐบาลจะมีแนวทางและนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรด้วยการรับจำนำในราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ที่เชื้อแป้ง 25% เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2555 เป็นต้นไป ซึ่งเป็นราคารับจำนำที่ต่ำกว่าปีที่ผ่านมา และราคาตลาดในปัจจุบันมีการรับซื้อมันฯ ที่ราคา 2.80 บาท/กิโลกรัม
       
       ทั้งนี้ หากรัฐบาลประกาศราคารับจำนำดังกล่าวออกมาจะทำให้โรงแป้งมันต่างๆ รับซื้อมันฯ จากเกษตรกรราคาเดียวกับที่รับจำนำ ซึ่งเป็นราคาที่ไม่คุ้มทุน ฉะนั้นจึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเพิ่มราคารับจำนำขึ้นเป็น 3.00 บาท/ กิโลกรัม
       
       นายธีระชาติ เสยกระโทก เลขาธิการและผู้ประสานงานสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้
(2 ต.ค.) ทางสมาคมฯ จะส่งตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจาก จ.นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และกำแพงเพชร รวมกว่า 300 คนเข้ายื่นหนังสือต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพฯ เวลาประมาณ 08.00 น. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนมติในการช่วยเหลือเกษตรกรจากที่เคยประกาศรับจำนำมันฯ ตามโครงการแทรกแซงราคามันสำปะหลังฤดูกาลผลิต 2555/56 ที่เชื้อแป้ง 25% ราคาเริ่มต้นที่ 2.50 บาท/กิโลกรัม ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2555 และเพิ่มขึ้นเดือนละ 0.05 สตางค์/กิโลกรัม จนถึงเดือน มี.ค. 2555 ราคารับจำนำจะอยู่ที่ 2.75 บาท/กิโลกรัม และมีกำหนดรับจำนำหัวมันสดทั้งหมดเพียงจำนวน 15 ล้านตันเท่านั้น

       
       ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ขอให้รัฐบาลดำเนินการโครงการดังกล่าวตามข้อเรียกร้อง ดังนี้
       
       1. ขอให้รับจำนำมันสำปะหลังทั้งหมดเหมือนกับการรับจำนำข้าว ไม่ใช่รับแค่ 15 ล้านตันตามข้อเสนอของคณะอนุกรรมการมันสำปะหลังเท่านั้น
       
       2. ให้รัฐบาลรับจำนำมันฯ ในราคาเดียวที่ 3.00 บาท/กิโลกรัม ตลอดโครงการรับจำนำ หรือตลอดเดือน ต.ค. 2555-เม.ย. 2556 และ
 
       3. ให้มีตัวแทนของเกษตรกรได้เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการในคณะอนุกรรมการกำหนดราคาการรับจำนำมันสำปะหลังอย่างน้อย 5 คน หรือเป็นที่ปรึกษาของคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลังแห่งชาติ

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 ตุลาคม 2555 
 

แถลงการณ์ ฉบับที่ 1 สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน

                                                                        ธีรชาติ เสยกระโทก 

พี่น้องชาวไร่มันสำปะหลัง ที่รักทุกท่าน

ข่าวร้ายสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังมาถึงแล้ว ที่พวกเราจะต้องประสบกับสภาวะการขาดทุนอีกปี เพราะรัฐบาลจะเปิดโครงการรับจำนำมันสำปะหลัง ราคาเริ่มต้นที่ 2.50 บาทต่อกิโลกรัมและไปสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2556 ที่ราคา 2.75 บาทต่อกิโลกรัม และจะรับจำนำจากเกษตรกรรายละ 200 ตัน แต่ที่ผ่านมา รับจำนำมัน
สำปะหลังจากพวกเรา ที่ราคา 2.75 บาทต่อกิโลกรัมและรายละ 250 ตัน พวกเรายังแทบจะไม่มีกินและมีเงินชำระหนี้ แต่มาในปีนี้กลับลดราคาและจำนวนที่รับจำนำลง ทั้งที่ราคาปัจจัยการเพาะปลูกมันสำปะหลังมีแต่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างแรงงาน ค่าปุ๋ย ค่ายา และปี 2556 สินค้ามีแต่จะปรับราคาสูงขึ้นและพวกเราเกษตรกรผู้
ปลูกมันสำปะหลังจะอยู่ได้อย่างไร ถ้าเรามีรายได้จากการขายมันสำปะหลังแล้วเหลือเฉลี่ยกำไรเดือนละ 68 บาทต่อไร่
วันนี้พี่น้องพวกเราชาวไร่มันสำปะหลังต้องร่วมแรง ร่วมพลังกัน ร่วมมือกัน ผลักดันให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำให้กับพวกเรา เพราะพวกเราขาดคน
เหลียวแลไม่ได้ให้ความสนใจในความทุกข์ยากของพวกเรา วันนี้พวกเราคงหวังพึ่งใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากพวกเราจะร่วมมือกัน ช่วยเหลือกัน แสดงออกถึงความ
เดือดร้อนของพวกเรา ก่อนที่รัฐบาลจะมีการประกาศโครงการรับจำนำในวันที่ 1 ตุลาคม 2555 ที่ราคา 2.50 บาทต่อกิโลกรัม
“ วันนี้พี่น้องชาวไร่มันสำปะหลัง พวกเราพร้อมกันหรือยังที่จะแสดงออกถึงความเดือดร้อนของพวกเรา ถ้าพร้อมแล้วเราต้องร่วมกันแสดงออกในเร็ววันนี้ ก่อนที่จะสาย
เกินไปและก่อนที่ครอบครัวพวกเราจะล่มสลาย”

สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน





Powered by Allweb Technology.