
รมว.พณ.ยอมรับขายมันสำปะหลังให้จีนแบบ G2G ขาดทุน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้อนุมัติขายมันสำปะหลังทั้งหมด ในสต๊อกของรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ให้กับรัฐบาลจีน ในราคาเกือบ 200 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยยอมรับว่า เป็นการขายแบบขาดทุน และในเร็วๆ นี้ จะเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีให้เห็นชอบโครงการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลัง ปี 2555/2556 ซึ่งหากจำเป็นจะให้เริ่มเปิดรับจำนำ ตั้งแต่ช่วงฤดูกาลผลิต หรือ ตั้งแต่ผลิตเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนพฤศจิกายน โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณจากเงินกู้ของ ธ.ก.ส. เข้าไปแทรกแซงราคานำตลาด กิโลกรัมละ 2.50 บาท จากผลผลิตที่คาดว่า จะออกสู่ตลาด ประมาณ 25 ล้านตัน และเชื่อว่า จะมีมันสำปะหลังเข้าร่วมโครงการ เพียง 10-12 ล้านตันเท่านั้น หลังจากมีราคาดีขึ้น ซึ่งเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับในปีที่ผ่านมา
ข้อมูล : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 7 กันยายน 2555
ยันขายข้าวรัฐไม่ขาดทุน .“บุญทรง” เอาหัวเป็นประกันเปิดประมูลโปร่งใส
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์
“บุญทรง” ยันระบายข้าวไม่ขาดทุนถึง 5 พันบาทต่อตันแน่ พร้อมเตรียมเผยข้อมูลหลังอนุมัติขายเรียบร้อย ส่วนมันฯ เผยขายยกสต๊อกให้จีน
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเปิดระบายสต๊อกข้าวรัฐบาลที่มีการคาดการณ์กันว่ารัฐบาลจะขายขาดทุนจากการ เปิดประมูลข้าวขาว 2.1 แสนตัน จากทั้งหมด 7.5 แสนตัน ในวันที่ 28 ส.ค.นี้ ไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท/ตัน ยืนยันว่าเป็นการคาดการณ์ขาดทุนที่สูงเกินไป และเชื่อว่ารัฐบาลจะขายข้าวได้ในราคาดีและไม่ขาดทุนมากอย่างนั้น ซึ่งมีราคากลางชัดเจน หากต่ำกว่าราคากลาง รัฐบาลก็ไม่อนุมัติขาย
“โดยจะมีการเปิดเผยข้อมูลหลังจากมีการอนุมัติขายทั้งปริมาณและราคา ซึ่งไม่ต้องห่วงว่าจะมีการหมกเม็ด โดยยืนยันเรื่องความโปร่งใส ดังนั้นเรื่องกระแสข่าวข้าวที่เกิดขึ้นนี้ ตนมองว่าเป็นการพูดเกินความจริงเกินไป” นายบุญทรง กล่าว
นอกจากนี้ สำหรับการระบายสต๊อกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรัฐบาลที่ได้จากโครงการรับจำนำมัน สำปะหลัง ฤดูกาล 2554/55 ประมาณ 9.5 ล้านตัน จะมีการขายให้กับรัฐบาลจีนแบบยกล็อตในส่วนของมันเส้นร่วม 2.5 ล้านตัน ซึ่งจะได้ข้อสรุปสิ้นเดือน ส.ค.นี้ โดยราคาที่ขายให้กับรัฐบาลจีนเบื้องต้นตกลงที่ประมาณ 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งเงินที่ได้จะนำมาหมุนเวียนใช้ในโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรฤดูกาลต่อไป
นายเสรี เด่นวรลักษณ์ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า “ราคามันเส้นในตลาดขณะนี้อยู่ที่ 240 เหรียญสหรัฐ/ตัน เมื่อทอนกลับมาในรูปของหัวมันจะอยู่ที่ 2.50 บาท/กก. ซึ่งหากกระทรวงพาณิชย์ขายมันเส้นให้จีนทั้งหมดในราคามิตรภาพ เพราะเป็นการขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) คาดว่ารัฐบาลก็คงขาดทุนอยู่แล้ว เพราะรัฐบาลอยากขายมันเส้นให้ได้ราคาดีควรมีการเปิดประมูลให้เอกชนไทยและจีน มาแข่งขันกันเสนอราคามากกว่า ส่วนแป้งมันราคาตลาดขณะนี้อยู่ที่ 430-440 เหรียญสหรัฐ/ตัน
สำหรับการเปิดรับจำนำโครงการมันสำปะหลัง ฤดูกาล 2555/56 โดยเตรียมที่จะรับจำนำหัวมันสดเริ่มต้นที่ 2.50 บาท/กก. และเพิ่มขึ้นเดือนละ 5 สตางค์นั้น มองว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับราคาตลาด และไม่ทำให้ราคาต้นทุนมันสำปะหลังสูงเกินไป”
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า หากรัฐบาลขายมันสำปะหลังราคา 200 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งมีมันเส้นอยู่ทั้งหมด 2.5 ล้านตัน จะได้เงินประมาณ 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่ารัฐบาลจะขาดทุนประมาณตันละ 40 เหรียญสหรัฐ/ตัน จากต้นทุนรับจำนำ รวม 2.5 ล้านตันจะขาดทุน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินประมาณ 3,000 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกที่ตัวเลขขาดทุนอาจมากกว่านี้
นายบุญทรง กล่าวเสริมต่อว่า ระหว่างวันที่ 27 ส.ค.-1 ก.ย.55 จะเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 44 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง โดยอาเซียนจะมีการหารือถึงความคืบหน้าการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ซึ่งจะมีการพิจารณาว่าอะไรยังเป็นปัญหาและอุปสรรคที่ทำให้การเป็น AEC ไม่เป็นไปตามแผน และจะต้องหาทางแก้ไข
ทั้งนี้ อาเซียนจะมีการหารือถึงการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ ขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ของอาเซียน การหารือร่วมกับองค์กรทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WIPO) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านทรัพย์สินทางปัญญาระหว่างกัน และการผลักดันโครงการนำร่องระบบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง โครงการที่ 2 กับอินโดนีเซีย ลาว และฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกัน อาเซียนจะมีการหารือกับประเทศคู่เจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ของอาเซียน โดยจะหารือถึงความเป็นไปได้ในการจัดทำ FTA อาเซียน+6 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) เพื่อนำไปสู่การประกาศเปิดตัวการเจรจาในการประชุมสุดยอดอาเซียนเดือน พ.ย.นี้ โดยจะเป็นการต่อยอดจาก FTA ระหว่างอาเซียนกับแต่ละประเทศที่มีการเจรจากันอยู่ในปัจจุบัน
ส่วนประเด็นอื่นๆ จะมีการหารือแนวทางการสรุปการเจรจาเพื่อเปิดเสรีการค้าบริการและการลงทุนกับ อินเดีย และการพิจารณาให้การรับรองเอกสารที่สำคัญ ได้แก่ 1.แผนการดำเนินงานภายใต้ปฏิญญาร่วมระหว่างอาเซียนและแคนาดาด้านการค้าและการ ลงทุน ปี 2555-2558 FREE 2555-2558 2.แผนงานความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนระหว่างอาเซียน-รัสเซีย 3.แผนงานยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น ระยะ 10 ปี
ที่มาหนังสือพิมพ์บ้านเมือง วันที่ 27 สิงหาคม 2555
กรมการค้าต่างประเทศ แจ้งผลการหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาการส่งออกมันสำปะหลังไปจีน
นายสุรศักดิ์ เรืองเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2555 ถึง
สมาคมเพื่อแจ้งเรื่อง ผลการหารือเรื่องการแก้ไขปัญหาการส่งออกมันสำปะหลังไปจีน จากการที่กรมฯ ได้เชิญคณะผู้บริหารของเมือง
เหลียนหยุนก่าง และประธานกรรมการท่าเรือเหลียนหยุนก่าง (Mr. Yu Xiangyang) เป็นหัวหน้าคณะเดินทางมาเยือนไทย เพื่อหาแนวทาง
แก้ไขปัญหาการส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเส้นของไทยไปยังประเทศจีน เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2555 ผลการหารือเกี่ยว
กับแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าว สรุปได้ดังนี้
1. ในระยะสั้น ท่าเรือเหลียนหยุนก่างยินยอมให้มีการขนถ่ายแบบเทกอง (In Bulk) สำหรับมันเส้นชิ้นใหญ่ได้ แต่มันเส้นที่มีฝุ่นละอองมาก
ขอให้ผู้ส่งออกไทยบรรจุสินค้าในถุงขนาดใหญ่ (Big Bag) หรือตู้ Contalner นอกจากนี้ ท่าเรือจือหวางก่าง (Zhi Wang Gang) จะ
เป็นท่าเรือแห่งใหม่ที่สามารถรองรับการขนถ่ายมันสำปะหลังได้อีกแห่งหนึ่ง และคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ประมาณเดือน
ธันวาคม 2555 ซึ่งท่าเรือดังกล่าวอยู่ห่างจากท่าเรือเหลียนหยุนก่าง ประมาณ 40-50 กิโลเมตร เป็นท่าเรือน้ำลึกที่สามารถรองรับเรือ
บรรทุกสินค้าขนาด 40,000 – 50,000 ตันได้
2. สำหรับระยะยาว ภาครัฐและเอกชนของทั้งสองฝ่าย ควรหาแนวทางร่วมกันพัฒนากระบวนการผลิตมันสำปะหลังเส้นให้มีคุณภาพดี ขนาด
ชิ้นของมันเส้นใหญ่ขึ้น และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในการขนส่งมันสำปะหลังเส้นที่ต้องการจะส่งออก เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองที่เกิดขึ้น
ระหว่างการขนถ่ายสินค้า เนื่องจากเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบท่าเรือ
อคส. ออกประกาศให้ยืนยันค่าใช้จ่ายที่ค้างชำระ ตามโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร
1. ดาวน์โหลดแบบฟอร์มหนังสือแจ้งยืนยันค่าใช้จ่ายที่องค์การคลังสินค้า
ค้างชำระให้ผู้ประกอบการโครงการรับจำนำสินค้าเกษตรที่เว็บไซต์ www.pwo.co.th
1.1 กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มหนังสือแจ้งยืนยันค่าใช้จ่ายที่องค์การคลังสินค้าค้างชำระ ตาม ข้อ 1
1.2 ส่งหนังสือ ตามข้อ 1.1 ให้องค์การคลังสินค้า ดังนี้.-
1.2.1 ทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จ่าหน้าซองถึง
คุณอมราภรณ์ สันติวงศ์
ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า
องค์การคลังสินค้า เลขที่ 44/100 หมู่ 1 ถนนนนบุรี 1
อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
1.2.2 โทรสาร หมายเลข 02-547-5757 ถึง คุณอมราภรณ์ สันติวงศ์
โทรศัพท์ 02-507-5371, 02-507-5011
ตั้งแต่เวลา 09.00 น. - 16.00 น.
หรือ
2. กรอกข้อมูลผ่านเว็บไซต์ อคส.
คลิกเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ดูตัวอย่างและขั้นตอนการกรอกแบบฟอร์มผ่านเว็ปไซต์
http://www.pwo.co.th/ewt_news.php?nid=1322&filename=index
- วัตถุประสงค์การสำรวจครั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการทุกท่าน จากการเข้าร่วมโครงการรัฐบาลซึ่งจะได้รับเงินค่า ใช้จ่ายต่างๆ
อย่างครบถ้วน เอกสารไม่สูญหาย และสามารถตรวจสอบได้
- หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 02-507-5371 และ 02-507-5011 ตั้งแต่เวลา 9.00 - 16.00 น.