Company Logo





พยากรณ์อากาศ

หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะทำงานด้านเศรษฐกิจการเกษตรของพรรคหารือกับ 3 สมาคมผู้ค้ามันสำปะหลัง เรื่องปัญหาและอุปสรรคในโครงการรับจำนำ


หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นำคณะทำงานด้านเศรษฐกิจการเกษตรของพรรคหารือกับ 3 สมาคมผู้ค้ามันสำปะหลัง เรื่องปัญหาและอุปสรรคในโครง
การรับจำนำ ขณะที่นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย เสนอให้เกษตรกรรวมตัวเป็นกลุ่มร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อบริหารผลผลิตให้ได้ราคา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยทีมเศรษฐกิจการเกษตรของพรรคร่วมหารือกับ 3 สมาคมมันสำปะหลัง ประกอบด้วย
สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย และสมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่ง
การหารือพบว่า รัฐบาลมีปัญหาการบริหารจัดการในโครงการรับจำนำ การจัดเก็บมันสำปะหลังในสต๊อก การกำหนดผลผลิตต่อไร่ และความ
สามารถในการแข่งขันก่อนเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยเฉพาะการผลิตพลังงานทดแทนจากมันสำปะหลัง ซึ่งเป็นทางเลือกที่ต้องบริหาร
จัดการให้มีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันการรับจำนำรอบใหม่ อาจส่งผลกระทบจากการแทรกแซงราคาของรัฐ เช่น การซื้อแพงแต่ขายถูก ทำให้
กลไกตลาดมีปัญหา ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะนำข้อมูลดังกล่าวไปติดตามการทำงานของรัฐบาล พร้อมผลักดันนโยบายของพรรคให้สอดคล้องกับ
ความต้องการของเกษตรกรและผู้ประกอบการ

ขณะที่นายเสรี เด่นวรลักษณ์ นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลมีความพร้อมก่อนที่จะรับจำนำรอบใหม่ และเสนอให้
รัฐบาลสนับสนุนให้เกษตรกร รวมกลุ่มกับผู้ประกอบการ บริหารการปลูก การเก็บเกี่ยว ตลอดจนการขายผลิตภัณฑ์ให้ได้ราคา โดยไม่จำเป็นต้องใช้
โครงการรับจำนำหรือประกันรายได้สินค้าราคาเกษตร ซึ่งเห็นว่าราคามันสำปะหลังมีแนวโน้มสูงขึ้นตามราคาสินค้าเกษตรกรที่เป็นที่ต้องการของ
ตลาดโลก และไม่จำเป็นต้องนำมาทำเป็นพลังงานทดแทน เพราะการใช้บริโภคและส่งออกยังไม่เพียงพอ ทั้งนี้ในกลุ่มประเทศอาเซียนถือว่า
ประเทศไทยเป็นผู้ปลูกและส่งออกมันสำปะหลังเป็นอันดับ 1 มีผลผลิตต่อปีถึง 27.5 ล้านตัน ดังนั้น มันสำปะหลังจึงยังมีช่องทางที่จะเพิ่มราคาให้
สูงขึ้นได้

ข้อมูลข่าว : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ 





 

ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โคราช-บุรีรัมย์ ยื่นข้อเสนอเรียกร้องรัฐบาล ขอปรับราคารับจำนำแบบขั้นบันได เป็นราคาเดียวตลอดทั้งโครงการฯ

                                                                  อัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภากรณ์

นายอัครวัฒน์ กิตติพงษ์ภากรณ์ ตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า
กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โคราช-บุรีรัมย์ ได้ยื่นหนังสือและเตรียมขอเข้าพบหารือกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ภายในสัปดาห์นี้
เพื่อขอให้รัฐบาล ทบทวนราคารับจำนำหัวมันสดที่กำหนดไว้แบบขั้นบันได ซึ่งโครงการรับจำนำในฤดูใหม่ปี 2555/56 จะเริ่มในเดือนตุลาคม
ถึงเดือนมีนาคมปีหน้า กำหนดราคาเริ่มต้นที่ กก.ละ 2.50 บาท เชื้อแป้ง 25% และจะปรับราคาเพิ่มขึ้นทุกเดือน เดือนละ 5 สตางค์ 

นายอัครวัฒน์ กล่าวว่า เนื่องจากสภาพความเป็นจริง บางพื้นที่เกษตรกรจำเป็นจะต้องเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงปลายฝน ต้นหนาว เดือนตุลาคม-
เดือนธันวาคม รอไว้ไม่ได้หากไม่ขุดช่วงนี้ทิ้งไว้ดินจะแข็ง ปกติในปีที่ผ่านๆมา เกษตรกรจะขุดผลผลิตออกมารอติดคิวขายให้กับโรงแป้ง ลาน
มันจำนวนมาก "อยากจะขอร้องรัฐบาลว่าถ้าจะรับจำนำเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจริงๆ ก็ควรกำหนดเป็นราคาเดียวตลอดทั้งโครงการ เช่นเดียวกับ
โครงการรับจำนำข้าว แม้ว่าเดือนสุดท้ายจะได้ราคาสูงก็ตาม แต่เกษตรกรคงรอไม่ไหวเพราะมันเป็นฤดูกาลที่ของจะต้องออก นี่คือเหตุผลคือข้อ
เท็จจริง" นายอัครวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ตนมองว่าผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ของเกษตรกรในปีนี้จะลดลงจากที่เคยได้
4 ตันจะเหลือเพียง 3 ตัน เท่านั้น เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งในช่วงเดือน พ.ค.-มิ.ย. ที่ผ่านมา ทำให้เวลานี้ต้นมันสำปะหลังโตไม่เต็ม
ที่ คาดผลผลิตจะลดลง 20-30% แม้ว่าช่วงหลังจะมีฝนตกลงมาช่วยบ้างก็ตามแต่ต้นมันฯก็มีสภาพไม่สมบูรณ์ อีกทั้งต้นทุนการเพาะปลูกของ
เกษตรกรก็เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าปุ๋ยยูเรีย ปีที่แล้วกระสอบละ 700 บาท มาปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 930-950 บาท 

ข้อมูลข่าว : nettanews. (11 ก.ย.55) 

ชาวไร่มันสำปะหลังอีสาน โวยรัฐ ขอขึ้นราคามัน!!



สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคอีสาน ไม่พอใจโครงการรับจำนำมันสำปะหลังของรัฐบาล เตรียมเข้ายื่นหนังสือกับ รมว.พาณิชย์ 12 ก.ย.นี้ เพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนโครงการใหม่ โดยขอเพิ่มราคารับจำนำจาก 2.50 บ./กก. เป็น 3 บาท และขอเพิ่มปริมาณรับจำนำจาก 15 ล้านตัน เป็น 27 ล้านตัน

นครราชสีมา – วันนี้ (11 ก.ย. 55) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า จากการที่รัฐบาลมีมาตรการแทรกแซงตลาดมันสำปะหลังปี 2555/2556
โดยมีมติกำหนดปริมาณรับจำนำ 15 ล้านตัน ซึ่งตั้งราคารับจำนำไว้ที่ 2.50 บาทต่อกิโลกรัม และปรับเพิ่มขึ้นเดือนละ 5 สตางค์ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2555 จนถึง
เดือนมีนาคม 2556 ซึ่งใช้วงเงินประมาณ 4.4 หมื่นล้านบาทนั้น เมื่อช่วงเย็นวานนี้ สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ได้มีการประชุมกันขึ้นที่
อ.ครบุรี และมีมติจะเดินทางไปยื่นหนังสือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในวันที่ 12 กันยายนนี้ เพื่อขอให้รัฐบาลทบทวนนโยบายรับจำนำมันสำปะหลังใหม่ เนื่องจากไม่พอใจที่ราคารับจำนำอยู่เพียง 2.50 บาทต่อกิโลกรัม และปริมาณมันสำปะหลังที่รัฐบาลรับจำนำน้อยเกินไป

โดยนายธีรชาติ เสยกระโทก เลขาธิการสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า ราคามันสำปะหลังที่รัฐบาลประกาศจะรับจำนำ 2.50 บาทต่อกิโลกรัมนั้น เป็นราคาที่ต่ำมาก เพราะราคาต้นทุนก็อยู่ที่ 2.50 บาทต่อกิโลกรัมเหมือนกัน ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังประสบกับปัญหา
ขาดทุน และอยู่ไม่ได้ ซึ่งชาวไร่มันสำปะหลังต้องการอยู่ที่ 2.80 – 3 บาท ต่อกิโลกรัม จึงเตรียมทำหนังสือไปยื่นกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิช เพื่อขอให้
รัฐบาลเอากลับไปทบทวนใหม่ แต่หากรัฐบาลยังยืนยันเช่นนี้อีก ชาวไร่มันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด ก็จะต้องมีการเคลื่อนไหวอีกแน่นอน
นายธีระชาติฯ กล่าว

ด้านนายพรชัย อำนวยทรัพย์ ส.อบจ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (10 ก.ย. 55) ขณะที่ชาวไร่มันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำลังประชุม
หารือเรื่องนี้อยู่ ก็ได้ข่าวว่านายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาที่ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ซึ่งทำให้ชาวไร่มันสำปะหลังรู้
สึกดีใจนึกว่าจะมาสอบถามปัญหา แต่ปรากฏว่านายณัฐวุฒิฯ ไม่ได้สนใจกับเรื่องปัญหาชาวไร่มัน เพียงเดินทางมาพักผ่อนส่วนตัวเท่านั้น ซึ่งก็สร้างความผิดหวังให้กับชาวไร่มันสำปะหลังเป็นอย่างมาก ถึงอย่างไรก็ตาม มติที่ประชุมของสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็ยังไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศรับจำนำเพียง 2.50 บาทต่อกิโลกรัม และขอให้เพิ่มปริมาณรับจำนำจาก 15 ล้านตัน เป็น 27 ล้านตัน เท่ากับปริมาณผลผลิตที่เกษตรกรทำได้

โดยในวันพรุ่งนี้ (12 ก.ย. 55) ตัวแทนสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังประมาณ 30 คน จะเดินทางไปเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิช ประมาณเวลา 12.00 น. เพื่อยื่นหนังสือให้รัฐบาลกลับไปทบทวนใหม่ ซึ่งจะรอคำตอบภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ แต่หากรัฐบาลยังยืนยันจุดเดิม ชาวไร่มันสำปะหลังในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาก็อาจจะมีการเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะถึงขั้นขนเอามันสำปะหลังมาเทหน้าศาลากลางจังหวัดด้วย พร้อมกันนี้ก็จะมีการล่ารายชื่อ 5 หมื่นคน
เพื่อให้มีการออก พรบ.มันสำปะหลังแห่งชาติด้วย นายพรชัยฯ กล่าว.

ข้อมูลข่าว : Koratdailynews.com/ วันที่ 12 กันยายน 2555

กรมการค้าต่างประเทศสั่งคุมเข้มคุณภาพ-มาตรฐานมันสำปะหลังก่อนส่งออก‏




     นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมามันสำปะหลังเส้นของไทยที่ผลิตและส่งออกไปต่างประเทศประสบปัญหาเรื่องคุณภาพมาตรฐาน ทำให้ผู้นำเข้าได้ร้องเรียนเรื่องมีฝุ่นผงจำนวนมากและมีสิ่งเจือปน เช่น ทราย , ดิน ผสมในอัตราสูง ทำให้การส่งออกเป็นไปด้วยความยากลำบาก 


นอกจากนี้ ปัญหาฝุ่นผงจำนวนมากได้ฟุ้งกระจายในขณะขนถ่าย ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณท่าเรือที่ขนถ่ายมันเส้น ซึ่งปัญหาดังกล่าวทำให้สาธารณรัฐประชาชนจีนซึ่งเป็นตลาดคู่ค้ามันเส้นที่สำคัญของไทยชะลอการสั่งซื้อมันเส้นจากไทย

นอกจากนี้ผู้นำเข้าจีนได้หันไปซื้อมันเส้นจากเวียดนามจนหมดก่อนแล้วจึงค่อยสั่งซื้อจากไทย ส่งผลให้การส่งออกมันเส้นของไทยชะลอตัว และทำให้ราคามันสำปะหลังของไทยทั้งระบบตกต่ำ ซึ่งปัญหานี้อาจขยายไปยังประเทศอื่นๆ กรมการค้าต่างประเทศ จึงจะตรวจเข้มในเรื่องของคุณภาพมาตรฐานในการส่งออกและกำกับดูแลผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด รวมทั้งร่วมมือกับสมาคมที่เกี่ยวกับมันสำปะหลังของไทยรณรงค์และเน้นย้ำกับผู้ประกอบการไทยให้เห็นถึงความสำคัญเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานของสินค้าผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เพราะหลายประเทศได้นำประเด็นดังกล่าวมาเป็นข้ออ้างในการออกมาตรการกีดกันการนำเข้า


ข้อมูลข่าวโดย http://news.voicetv
 

จีนเปิดไฟเขียวท่าเรือเทียนจินพร้อมนำเข้ามันสำปะหลังจากไทย



             สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ รายงานว่า ตลาดการค้าสินค้าเกษตรกรรมเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ปินไห่ของจีน กับสำนักงานการค้ามันสำปะหลังแห้งล่วงหน้าของไทย ได้เซ็นสัญญาว่าด้วยการนำเข้ามันสำปะหลังแห้งจากไทย โดยจีนพร้อมเปิดช่องทางนำเข้ามันสำปะหลังแห้งจากไทยผ่านด่านตงเจียง นครเทียนจิน จากก่อนหน้านี้ที่มันสำปะหลังจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าสู่จีนผ่านด่าน ชิงเต่า  ฉินฮ๋วงต่าว เซี่ยงไฮ้ ซึ่งนครเทียนจินเป็นท่าเรือสำคัญในทางตอนเหนือ รวมทั้งเป็นศูนย์กระจายสินค้าหลักสู่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือ รวมทั้งกรุงปักกิ่ง และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแป้งและการผลิตบะหมี่ของมณฑลหูเป่ย ที่ล่าสุดมียอดการใช้มันสำปะหลังถึงราว   8 แสนตัน ในขณะที่นำเข้าจากไทยได้เพียง 5-6 หมื่นตันต่อปี จึงถือเป็นช่องทางการค้าที่สำคัญแห่งใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตมัน สำปะหลังของไทย 


              ทั้งนี้แผนการพัฒนาประจำปี 2554-2559 ของจีนได้กำหนดมันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอันดับแรก และเป็นสินค้าสำคัญในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานทดแทนของจีน จากการที่มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบหลักของการผลิตเอทานอล ความต้องการมันสำปะหลังของตลาดจีนจึงมีแนวโน้มขยายตัวมากในอนาคต


ข้อมูล : breakingnews.nationchannel.com/8 กันยายน 2555

#� 5;x� �w ly:"TH SarabunPSK","sans-serif"; mso-bidi-language:TH'>รายงานว่า ตลาดการค้าสินค้าเกษตรกรรมเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ปินไห่ของจีน กับสำนักงานการค้ามันสำปะหลังแห้งล่วงหน้าของไทย ได้เซ็นสัญญาว่าด้วยการนำเข้ามันสำปะหลังแห้งจากไทย โดยจีนพร้อมเปิดช่องทางนำเข้ามันสำปะหลังแห้งจากไทยผ่านด่านตงเจียง นครเทียนจิน จากก่อนหน้านี้ที่มันสำปะหลังจากประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าสู่จีนผ่านด่าน ชิงเต่า          ฉินฮ๋วงต่าว เซี่ยงไฮ้ ซึ่งนครเทียนจินเป็นท่าเรือสำคัญในทางตอนเหนือ รวมทั้งเป็นศูนย์กระจายสินค้าหลักสู่ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือ รวมทั้งกรุงปักกิ่ง และโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแป้งและการผลิตบะหมี่ของมณฑลหูเป่ย ที่ล่าสุดมียอดการใช้มันสำปะหลังถึงราว      8 แสนตัน ในขณะที่นำเข้าจากไทยได้เพียง 5-6 หมื่นตันต่อปี จึงถือเป็นช่องทางการค้าที่สำคัญแห่งใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการผลิตมัน สำปะหลังของไทย

ทั้งนี้แผนการพัฒนาประจำปี 2554-2559 ของจีนได้กำหนดมันสำปะหลังเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอันดับแรก และเป็นสินค้าสำคัญในแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพลังงานทดแทนของจีน จากการที่มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบหลักของการผลิตเอทานอล ความต้องการมันสำปะหลังของตลาดจีนจึงมีแนวโน้มขยายตัวมากในอนาคต

 

ข้อมูล : breakingnews.nationchannel.com 8 กันยายน 2555

 






Powered by Allweb Technology.