
พลังงานลั่นเดินหน้าหนุน โซฮอล์อี20แทนเบนซิน95
กระทรวงพลังงานยืนยันหนุนแก๊สโซฮอล์อี 20 ด้านสมาคมการค้าผู้ผลิตเอทานอลไทยวอนรัฐเตรียมมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรมันสำปะหลัง ชี้ถูกกดดันจากราคาน้ำมันโลก
นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังคงนโยบายในการส่งเสริมพลังงานทดแทนที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในภาคขนส่ง ทั้งในส่วนของเอทานอลและไบโอดีเซล โดยใช้กลยุทธ์การรักษาส่วนต่างของราคาระหว่างน้ำมันเบนซิน 95 และน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 เพื่อให้ผู้ใช้รถหันมาเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์อี 20 มากขึ้นแทนการเติมน้ำมันเบนซิน 95
นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ค้าผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลงมาก จะเป็นแรงกดดันให้ผู้ผลิตเอทานอลต้องปรับลดราคาลงในการประมูลขายให้กับโรงกลั่นน้ำมันในรอบเดือน ม.ค.2558 ที่ปกติจะมีการประมูลขายเอทานอลกันทุกไตรมาส ซึ่งราคาเอทานอลที่ลดลงก็จะกระทบกับรายได้ของเกษตรกร โดยเฉพาะผู้ปลูกมันสำปะหลัง ดังนั้นรัฐจึงต้องเตรียมหามาตรการที่จะช่วยลดผลกระทบของเกษตรกรเอาไว้ และผู้ประกอบการต้องการให้รัฐเพิ่มส่วนต่างราคาเบนซินกับโซฮอล์อี 20 เพิ่มอีก 50 สตางค์ต่อลิตรด้วย.
ที่มา : ไทยโพสต์ วันที่ 12 มกราคม 2558
งัดแผนสกัดมันสำปะหลังราคาวูบ
พาณิชย์เตรียมแผนรับมือมันสำปะหลังราคาตก คาดปีนี้มีผลผลติมันสด 30 ล้านตัน รับเห็นสัญญาณแนวโน้มราคาเริ่มลดลง เผยแนวทางระยะสั้นชดเชยเงินให้ชาวไร่ชะลอเก็บเกี่ยว พร้อมหนุนสภาพคล่องให้ลานมัน โรงแป้งยกระดับการแปรรูป
นายสมชาติ สร้อยทอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางบริหารการจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 2557/58 ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีอนุมัติแนวทางบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 2557/58 โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาระดับราคามันสำปะหลังไม่ให้ปรับตัวลดลง เพราะในช่วงเดือน มกราคม-เมษายน เป็นช่วงที่ผลผลิตออกมากระจุกตัวมากที่สุดถึง 70% ของปริมาณผลผลิตทั้งปี โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตหัวมันสดออกมา 30 ล้านตัน แต่ผลผลิตอาจจะออกมาน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ เพราะสถานการณ์ภัยแล้ง
สำหรับแนวทางบริหารจัดการจะแบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น คือ การชดเชยดอกเบี้ยเพื่อชะลอการเก็บเกี่ยวให้เกษตรกร การเพิ่มสภาพคล่องทางการค้าให้ผู้ประกอบการ คือลานมัน โรงแป้ง โรงงานเอทานอล และผู้ส่งออก วงเงิน 375 ล้านบาท ส่วนมาตรการระยะปานกลาง คือ การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกในระบบน้ำหยดของเกษตรกร วงเงิน 1,380 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี การยกระดับมาตรฐานการแปรรูปมันสำปะหลังของผู้ประกอบการ คือ ลานมัน โรงแป้ง โรงงานเอทานอล และผู้ส่งออก วงเงิน 900 ล้านบาท ระยะเวลา 1 ปี โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เป็นผู้ดำเนินการเพื่อปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำกว่า 3% จากปกติให้แก่เกษตรกร
ส่วนการยกระดับมาตรฐานการแปรรูปมันสำปะหลังของผู้ประกอบการ คือ ลานมัน โรงแป้ง โรงงานเอทานอล และผู้ส่งออกนั้น สามารถขอสินเชื่อให้ทั้ง ธ.ก.ส. และธนาคารพาณิชย์ โดยโครงการดังกล่าวคาดว่าจะมีเกษตรกร และผู้ประกอบการทั้งประเทศ 5 แสนครัวเรือนได้รับประโยชน์ โดยเกษตรกรที่สนใจต้องลงทะเบียนเป็นเกษตรผู้ปลูกมันสำปะหลังเพื่อขอรับสิทธิ์เข้าร่วมโครงการ
นายสมชาติ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้พบว่าราคาหัวมันสด เชื้อแป้ง 25% ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และในช่วงนี้ปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น ประกอบกับสภาพอากาศดี แดดจัดลานมันจึงเร่งรับซื้อหัวมันสดเพื่อทำมันเส้น และในส่วนของมันเส้นราคาปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมาสู่ตลาดมากขึ้นเช่นกัน ประกอบกับความต้องการส่งออกของผู้ประกอบการชะลอตัวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และคาดว่าหลังจากนี้ราคาจะมีแนวโน้มลดลงและแป้งมันราคาปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนเนื่องจากประเทศคู่ค้าชะลอการสั่งซื้อ อีกทั้งค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเล็กน้อย อาจจะทำให้ราคาตกต่ำลงมาหากไม่มีมาตรการดังกล่าว
“ต้องการให้เกษตรกรชะลอการเก็บเกี่ยวผลผลิตในช่วงที่มีการเก็บเกี่ยวมากเพราะไม่ให้ราคาตกต่ำ ส่วนผู้ประกอบการลานมัน โรงแป้งก็ต้องการให้ยกระดับมาตรฐานการแปรรูป โดยจะร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมในการกำหนดให้ผู้ประกอบการติดตั้งตะแกรงเพื่อผลิตมันเส้นสะอาดในโครงการมันเส้นสะอาด โดยต้องทำอย่างเข้มงวดเนื่องจากไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี และประเทศเพื่อนบ้านของไทยก็มีผลผลิตมันสำปะหลังออกมาเช่นกัน หากผู้ประกอบการไทยไม่ยกระดับมาตรฐานการผลิตก็จะทำให้มันสำปะหลังของไทยสูญเสียความสามารถด้านการแข่งขันได้” นายสมชาติกล่าว
ที่มา: คม ชัด ลึก วันที่ 12 มกราคม 2558
รัฐอุ้มราคามันสำปะหลัง 57/58
ครม. ควักเงิน 2,760 ล้านบาทชดเชยดอกเบี้ย 3% ดันราคามันสำปะหลังปี 57/58 ทั้งปล่อยกู้ให้เกษตรกร ชะลอขุดหัวมัน คาดราคาหัวมันทะลุ 2.8 บาท/กก.
นายสมชาติ สร้อยทองผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะมิสเตอร์มันสำปะหลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่ประชุม ครม. ได้อนุมัติงบประมาณ 2,760 ล้านบาท ใช้ในการผลักดันแนวทางการบริหารจัดการตลาดมันสำปะหลัง ปี 57/58 ที่ผลผลิตหัวมันสดจะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นมาตรการที่จะใช้ดูแลราคาหัวมันสดให้กับเกษตรกร แทนแทรกแซงราคาตลาดแบบเดิม เช่น รับจำนำ และประกันราคา
ทั้งนี้ แนวทางที่ครม.อนุมัติวงเงิน 2,760 ล้านบาท แบ่งเป็นมาตรการระยะสั้น ได้แก่ อนุมัติวงเงิน 375 ล้านบาท ในการชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการชะลอเก็บเกี่ยวหัวมันสด โดยในช่วงที่ยังไม่เก็บเกี่ยว เกษตรกรสามารถกู้เงินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้ครัวเรือนละไม่เกิน 50,000 บาท ตั้งเป้าหมายไว้ 500,000 ครัวเรือน ที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งรัฐจะเข้าไปช่วยชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้เกษตรกร 3%เริ่มรับสมัครเกษตรกรเข้าร่วมโครงการตั้งแต่ธ.ค. 57-มี.ค. 58 โดยเวลาในการจ่ายชดเชยตั้งแต่ เดือนม.ค.-ก.ย. 58 รวมทั้งโครงการ 6 เดือน คาดว่าจะช่วยให้ราคาหัวมันสดในตลาดไม่ตกต่ำ
นอกจากนี้ ในมาตรการระยะสั้น ยังจะเพิ่มสภาพทางการค้า โดยอนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท ในเวลาโครงการ 4 เดือน โดยชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ 3%ให้ผู้ประกอบการลานมัน โรงแป้ง โรงงานผลิตเอทานอล และผู้ส่งออก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพผู้ประกอบการในการรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในช่วงที่ผล ผลิตออกมามาก
สำหรับ มาตรการที่เหลืออีก 2 มาตรการ เป็นมาตรการระยะกลาง โดยอนุมัติวงเงิน 1,380 ล้านบาท เวลาโครงการ 24 เดือน เพื่อชดเชยดอกเบี้ย 3%ให้เกษตรกรที่เข้าร่วม โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกผ่านระบบหยดน้ำ ซึ่งจะปล่อยกู้ผ่าน ธ.ก.ส.วงเงินไม่เกิน230,000บาทต่อครัวเรือน ตั้งเป้าหมายเข้าร่วมโครงการ 100,000 ราย เปิดรับสมัครตั้งแต่ธ.ค.57- มี.ค. 58 เวลาจ่ายชดเชยดอกเบี้ยตั้งแต่ม.ค. 58 -ธ.ค. 60 ซึ่งการเพาะปลูกมันผ่านระบบชดเชย จะช่วยลดต้นทุนการปลูกมันให้เกษตรกร เนื่องจากจะได้ผลผลิตหัวมันสดเพิ่มขึ้นเป็น 1 เท่า จากเดิมที่การปลูกต่อไร่จะได้หัวมัน 3.5 ตัน เพิ่มเป็นไร่ละ 7 ตัน
นายสมชาติ กล่าวว่า มาตรการสุดท้าย คืออนุมัติวงเงิน 900 ล้านบาท เวลาโครงการ 24 เดือน เพื่อผลักดันให้เกิดการยกระดับมาตรการแปรรูปมันสำปะหลัง หรือโครงการมันสะอาด โดยจะร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรม ในการบังคับให้โรงงานแปรรูปมันต้องติดตั้ง ตะแกรงเพื่อแยกดินทรายออกจากมัน ซึ่งรัฐจะช่วยชดเชยดอกเบี้ย3%เช่นกัน ให้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการและกู้เงินผ่านธนาคารพาณิชย์ ในการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งการยกระดับทำให้มันสะอาดจะช่วยเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของไทยให้เป็นที่ ต้องการในตลาดโลก และรองรับการแข่งขันหลังการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
“ปีนี้เชื่อว่า จะไม่มีเกษตรกรผู้ปลูกมันออกมาเรียกร้องเรื่องราคา เพราะราคาหัวมันสดในตลาดมีเสถียรภาพ โดยราคาปัจจุบันอยู่ที่ 2.3-2.4 บาทต่อกก. ขณะที่ต้นทุนปลูกมันอยู่ที่ 1.8 บาทต่อกก. เชื่อว่าหากผลักดันให้เกษตรกรชะลอการขุดหัวมันได้สำเร็จ จะทำให้ราคาหัวมันสดในตลาดขยับขึ้นเป็น 2.7-2.8 บาทต่อกก.”
ที่มา : เดลินิวส์ 11 มกราคม 2558
จ.ยโสธร ฝึกอบรมเพื่อพัฒนาการผลิตมันสำปะหลังหลังพบเกษตรกรประสบปัญหาด้านการผลิตและต้นทุนการผลิตสูง

เตรียมเสนอมาตรการพยุงราคามันสำปะหลัง.
โอฬาร พิทักษ์
นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยในโอกาสที่ผู้แทน 4 สมาคมฯ เข้าพบแสดงความยินดีและหารือเรื่องมันสำปะหลัง ร่วมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 17 พ.ย.57 ที่ผ่านมาว่า มาตรการซึ่งผ่านคณะกรรมการนโยบายมันสำปะหลัง เมื่อวันที่ 3 พ.ย.57 และกำลังจะนำเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า มีดังนี้.-
1.กรณีผู้ประกอบการ ได้กำหนดวงเงินกู้ไว้ 10,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง โดย
- รายใหญ่ ไม่เกิน 20 ล้านบาท
- รายกลาง ไม่เกิน 10 ล้านบาท
- รายเล็ก ไม่เกิน 5 ล้านบาท
รัฐบาล จะชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ 3% ระยะเวลา 4 เดือน (ธ.ค.57-มี.ค.58)
2.มาตรการของเกษตรกร จะจัดสรรวงเงินกู้ยืมรายละไม่เกิน 86,400 บาท รัฐบาลจะชดเชยดอกเบี้ยให้ชะลอการขุดมันสำปะหลัง ในช่วงระหว่าง เดือนธันวาคม 2557 - เดือนมีนาคม 2558
ส่วนมาตรการระยะกลาง จะจัดสรรวงเงินสินเชื่อเพื่อจัดทำระบบน้ำหยด รายละ 230,000 บาท สำหรับเกษตรกรที่ทำมันสำปะหลังในเขตพื้นที่โซนนิ่ง S1 และ S2
สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ