
บิ๊กลานมันกาญจน์ทุ่ม100ล.
บิ๊กลานมันเมืองกาญจน์ทุ่มอีก 100 ล้านขยายธุรกิจมันเส้นสะอาดรับเออีซี ระบุช่วยป้องกันเกษตรกรในพื้นที่ถูกพ่อค้าเพื่อนบ้านกดราคารับซื้อ เผยเน้นขายในประเทศส่งโรงงานเอทานอลและโรงงานอาหารสัตว์ ชี้อนาคตสดใสหลังวัตถุดิบข้าวโพดขาดแคลน
นายวันชัย วิริยาทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการลานมันชัยเรืองกิจ ผู้ผลิตและจำหน่าย มันเส้นสะอาด รายใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า เพื่อเตรียมความพร้อมรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)ในปีหน้า ลานมันชัยเรืองกิจได้เตรียมความพร้อมโดยการขยายลานมันเพิ่มอีก1 แห่งที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี บนพื้นที่190ไร่ มูลค่าลงทุนประมาณ100 ล้านบาท กำลังการผลิต 800-1 พันตันต่อวัน คาดจะสามารถเปิดรับมันสำปะหลังจากพื้นที่ใกล้เคียงได้ประมาณปีหน้า
ทั้งนี้การขยายกิจการดังกล่าวเพื่อรองรับปริมาณมันสำปะหลังของเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีรวมถึงในพื้นที่ใกล้เคียงที่มีมากขึ้น รวมถึงป้องกันการกดราคารับซื้อจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะจากเวียดนามที่จะกดราคามันสำปะหลังจากเกษตรกรไทย สำหรับลานมันของตนถือว่าเป็นลานมันเส้นสะอาดแห่งแรกของจังหวัด โดยมีโรงงานผลิตมันเส้นสะอาด2 แห่ง บนพื้นที่แห่งละ200ไร่ มีกำลังการผลิตวันละ 800-1 พันตัน โดยจะเน้นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศมากกว่ากว่าส่งออกเนื่องจากว่าความต้องการในประเทศยังมีอยู่มาก และไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งในแต่ละปีประทศไทยใช้มันสำปะหลังในอุตสาหกรรมอาหารปีละ 40 ล้านตัน ขณะที่ผลผลิตมันสำปะหลังมีเพียง 30 ล้านตันต่อปีเท่านั้น ทำให้ต้องมีการนำเข้ามันสำปะหลังจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาบางส่วน
"ลานมันที่ดำเนินการในขณะนี้แบ่งเป็นส่งให้โรงงานเอทานอล 70% และให้โรงงานอาหารสัตว์ 30% ซึ่งความต้องการมีมากขึ้นเพราะข้าวโพดอาหารสัตว์เริ่มขาดตลาดส่งผลให้ผู้ประกอบการอาหารสัตว์หันมาให้มันสำปะหลังผลิตเป็นอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น สำหรับราคารับซื้อเพื่อผลิตเป็นเอทานอลอยู่ที่ 6.80 บาทต่อกิโลกรัม มันเส้นอยู่ที่6.30บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้เอกชนต้องการให้รัฐเข้ามาส่งเสริมการผลิตต่อไร่ให้เพิ่มขึ้นรวมถึงหาตลาดให้กับผู้ประกอบการ"
ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการผลิตมันเส้นที่มีคุณภาพสะอาดเพราะราคายังดีอยู่และคู่แข่งอย่างกัมพูชาและเวียดนามยังมีผลผลิตออกมาน้อยไม่พอกับความต้องการของตลาดทำให้ไทยยังเป็นอันดับ1ในการเป็นผู้ส่งออกมันเส้นไปจีนแต่ในอนาคตก็ไม่แน่หากจีนเลือกที่จะนำเข้าผ่านชายแดนเวียดนามโดยกองทัพมดไทยอาจจะได้รับผลกระทบ ดังนั้นไทยจะต้องรักษาตลาดส่งออกมันสำปะหลังเอาไว้ให้ได้ โดยต้องสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับไปสู่การแข่งขันที่เน้นการผลิตเชิงคุณภาพมากกว่าเน้นปริมาณ การลดต้นทุนการผลิต รวมไปถึงการให้ความสำคัญกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลายน้ำที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบโดยภาครัฐต้องเข้ามาส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงตัวเองจากการผลิตมันเส้นที่มีสิ่งเจือปนมากให้หันมาผลิตมันเส้นที่สะอาด รวมทั้งหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องก็ต้องส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตหัวมันที่มีคุณภาพ มีผลผลิตต่อไร่สูง และที่สำคัญคือพยายามทำให้ผลผลิตกับราคาอยู่ในภาวะที่แข่งขันในตลาดโลกได้ และระบุอีกว่าการทำให้สินค้าเกษตรเป็นไปตามกลไกตลาดนั้น ทำให้ตลาดเกิดการแข่งขันและเกษตรกรมีการปรับตัวในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ 17กันยายน2557