Company Logo





พยากรณ์อากาศ

ศูนย์วิจัยธ.ก.ส.เผย6สินค้าเกษตรดาวรุ่ง



ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.ประเมินเศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัว 4.4-4.6% ระบุเศรษฐกิจภาคเกษตรพุ่ง 3% รับอานิสงส์ 6 สินค้าเกษตรหลักราคาปรับเพิ่มขึ้น

นายสมศักดิ์ กังธีระวัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยถึงผลวิจัยสถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2556 ของศูนย์วิจัยธ.ก.ส. คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวในอัตรา 4.4-4.6% ซึ่งยังมีความเสี่ยงจากวิกฤติเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบางจากปี 2555 ส่งผลให้อุปสงค์ของตลาดต่างประเทศชะลอตัว ต้องอาศัยกำลังซื้อจากผู้บริโภคภายในประเทศเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากขึ้น อาทิ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ การปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย

ด้านเศรษฐกิจภาคเกษตรไทยในปี 2556 นั้น มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องในระดับ 3% เนื่องจากผลผลิตทางการเกษตรขยายตัวในเกณฑ์ที่ดี โดยเฉพาะสินค้าในหมวดพืชผลและปศุสัตว์ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในตลาดเกิดใหม่ อาทิ ประเทศในแถบตะวันออกกลาง และแอฟริกาใต้ จัดเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง เป็นเป้าหมายใหม่ในการส่งออกสินค้าเกษตร ผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรขยายตัวได้มากขึ้น

"ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลง รวมทั้งมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากการลดดอกเบี้ยนโยบาย จะช่วยลดต้นทุนผู้ประกอบการในภาคเกษตรได้เป็นอย่างดี"

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจการเกษตรไทยอาจต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้สินค้าเกษตรบางกลุ่มมีแนวโน้มราคาขยับสูงขึ้น ได้แก่ มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยและน้ำตาลทราย ไก่เนื้อและกุ้งขาวแวนนาไม สำหรับ ยางพาราและสุกร อาจมีความเสี่ยงด้านราคา

ทั้งนี้ มันสำปะหลัง มีราคาอยู่ที่ 2-2.75 บาทต่อกก.สูงขึ้นจากปีนี้ 5-10% เป็นผลจากความต้องการอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น ซึ่งมันสำปะหลังยังใช้สำหรับพลังงานทดแทนได้ด้วย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ราคาปรับมาอยู่ที่ 9.50-13.00 บาทต่อกก.หรือเพิ่มขึ้น 2.5% เนื่องจากมีความต้องการในอุตสาหกรรมอาหาร สำหรับอ้อยโรงงานและน้ำตาลทราย ราคาปรับขึ้นมาอยู่ที่ 14.40 -15.56 บาทต่อกก.หรือ 6.7% จากความต้องการของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึง พลังงานทดแทน

ทางด้าน ไก่เนื้อ ราคาปรับมาอยู่ที่ 45-55 บาทต่อกก.เพิ่มขึ้น 2.9-3.2% เป็นผลจากการผลิตลดลงในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่ ต่างประเทศมีความต้องการไก่สดแช่แข็งจำนวนมาก กุ้ง ราคาปรับมาอยู่ที่ 142-146 บาทต่อกก.เพิ่มขึ้น 5-8% จากความต้องการในต่างประเทศ

สำหรับข้าวเปลือก ราคาข้าวขาว 5% อยู่ที่ 13,500-14,800 บาทต่อตัน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ 2.5-3.5% เพราะมีแนวโน้มประสบภาวะภัยแล้งมากขึ้น ขณะที่ความต้องการข้าวในต่างประเทศเพิ่มขึ้น

ส่วนราคายางพารา อยู่ที่ 79-90 บาทต่อกก.ลดลง 3% เพราะยอดการส่งออกไปจีนลดลง ส่วนสุกร ราคาอยู่ที่ 55-58 ต่อกก.ลดลง 3.5-4% เพราะผลผลิตเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยธ.ก.ส. ยังสำรวจความคิดเห็นของเกษตรจากทุกภาคทั่วประเทศภายใต้หัวข้อ ”ความสุขของเกษตรกรไทย” พบว่า มุมมองความสุขของเกษตรกรไทยอันดับที่ 1 คือ ความสุขจากการมีรายได้ที่แน่นอน มีเงินออมและไม่มีหนี้สิน คิดเป็น 25% ของผลสำรวจทั้งหมด อันดับ 2 ความสุขจากการมีบ้านที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองท่ามกลางเรือกสวนไร่นาที่เป็นของตนเอง คิดเป็น 20.1%

อันดับ 3 ความสุขจากการมีหลักประกันสุขภาพได้มาตรฐานเท่าเทียมกับโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ คิดเป็น 19.8% อันดับ 4 ความสุขจากการที่สินค้าเกษตรของตนสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูงทั้งในและต่างประเทศ คิดเป็น 17.7% และ อันดับที่ 5 ความสุขจากการมีพืชผลทางการเกษตรที่เจริญงอกงามพร้อมกับการมีประกันภัยพืชผลทางการเกษตรจากความเสี่ยงสภาพอากาศที่แปรปรวนคิดเป็น 17.4%

หน่วยงานส่วนที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการเข้ามาดูแลในเรื่องดังกล่าว เช่น การประกันภัยพืชผลการเกษตรและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เป็นต้น” นายสมศักดิ์กล่าวและว่า สำหรับแผนงานวิจัยในปีต่อไป จะเน้นการสำรวจผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน เพื่อให้เกษตรกรเตรียมตัวรับมือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์‏






Powered by Allweb Technology.