“เฉลิมชัย” อัดงบ 272 ล้านบาท ตัดวงจร โรคไวรัสใบด่างมันสําปะหลัง พื้นที่ 8 จังหวัด

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุม ครม.เศรษฐกิจว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบแก้ปัญหาโรคไวรัสใบด่างในมันสำปะหลังเกิดจากเชื้อไวรัส เพื่อเกษตรกรจะได้ให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคและความเสียหายของอุตสาหกรรมมันสำปะหลังทั้งระบบ

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่สามารถขายผลผลิตคุณภาพดีได้ โดยชดเชยให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ที่ได้รับผลกระทบ ไร่ละไม่เกิน 3,000 บาท และเป็นค่าทำลาย ไร่ละ 3,000 บาท จะดำเนินการทำลายไร่มันสำปะหลังที่ติดโรค โดยการขุด ถอน และฝังดิน โดยตั้งเป้าทำลายไว้ที่ จำนวน 45,399 ไร่ โดยขณะนี้คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบการดำเนินการและเบิกจ่ายงบประมาณดังกล่าวแล้ว โดยรวมวงเงินอนุมัติไว้ จำนวน 272ล้านบาท เป็นค่าชดเชย 136ล้านบาท และค่าทำลาย 136 ล้านบาท รวมทั้ง สำนักงบประมาณได้จัดสรรงบประมาณให้กระทรวงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ด้านกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งดำเนินการควบคุม ป้องกัน และยับยั้งการระบาดของโรคไวรัสใบด่างมันสำปะหลัง ไม่ให้สร้างความเสียหายต่อการผลิตและการค้ามันสำปะหลังของไทย ตลอดจนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดและต้องถอนทำลายต้นมันสำปะหลังทิ้งด้วย ซึ่งจะมีมาตรการทั้งในระยะสั้น และระยะยาว



ทั้งนี้ จากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร มีเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั้งประเทศรวม 50 จังหวัด จำนวน 523,589 ครัวเรือน พื้นที่กว่า 8.6 ล้านไร่ จึงขอให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ 8 จังหวัดข้างต้น และพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังอื่น ๆ ทั้ง 50 จังหวัด ระมัดระวังโรคดังกล่าว โดยสามารถป้องกันการระบาดได้โดยไม่นำเข้าท่อนพันธุ์หรือส่วนขยายพันธุ์จากต่างประเทศ ยกเว้นมันเส้นและหัวมันสด ที่ไม่ติดเหง้าหรือส่วนขยายพันธุ์มาด้วย เลือกใช้ท่อนพันธุ์ที่ปลอดโรคและทราบแหล่งที่มา สำรวจแปลงมันสำปะหลังอย่างสม่ำเสมอ กำจัดแมงพาหะนำโรค นอกจากนี้ หากพบมันสำปะหลังที่มีอาการข้างต้นให้รีบแจ้งสำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดทันที

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยังกล่าว เพิ่มเติมอีกว่า การแพร่ระบาดของโรคไวรัสใบด่างในมันสำปะหลังเกิดจากเชื้อไวรัส SLCMV หรือ Sri Lankan Cassava Mosaic Virus ทำให้ใบด่างเหลือง ใบเสียรูปทรง ลดรูปและยอดที่แตกใหม่จะแสดงอาการใบเหลือง ลำต้นแคระแกร็น ส่งผลทำให้ต้นโตไม่เต็มที่ ผลผลิตเสียหาย หลังจากในปีที่ผ่านมาโรคนี้ได้ถูกตรวจพบที่ จ.รัตนคีรี ประเทศกัมพูชา แล้วแพร่เข้ามาในพื้นที่จังหวัดสระแก้วแนวชายแดนติดประเทศกัมพูชา



แม้ว่าจะพยายามจำกัดพื้นที่การระบาด แต่มีสถานการณ์ภัยแล้งเกิดขึ้นชาวไร่มันปลูกมันไปแล้ว 2-3 รอบเสียหายหมด ก็ต้องเริ่มต้นปลูกกันใหม่อีก เกษตรกรต้องการท่อนพันธุ์มันมากขึ้น ส่งผลให้ราคาท่อนพันธุ์ในปีนี้สูงถึง 2-3 บาท/ท่อน ซึ่งการระบาดของโรคนี้ ได้ขยายวงออกสู่จังหวัดข้างเคียง ผ่านการซื้อขายท่อนพันธุ์มัน ดังนั้น อยากขอความร่วมมือจากเกษตรกร ก่อนจะซื้อท่อนพันธุ์มันสำปะหลังจากที่ใด ควรตรวจสอบว่าท่อนพันธุ์นั้นติดโรคหรือไม่ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้การระบาดของโรคลุกลามขยายวงกว้าง โดยพบการระบาดแล้วในพื้นที่ 8 จังหวัดบริเวณแนวชายแดนใกล้กับประเทศกัมพูชา ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว สุรินทร์ ศรีสะเกษ ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

ที่มา :  ผู้จัดการออนไลน์   6 ก.ย. 2562